BAFS เปิดทางหาพันธมิตรร่วมทุนใน FPT ลดสัดส่วนถือหุ้นจาก 92% เหลือ 75% พบมีนักลงทุนไทย 6-7 รายแห่ขอเสนอตัวเข้าซื้อหุ้น คาด ธ.ค.รู้ผล FPT เตรียมพร้อมเพิ่มทุน 3,000 ล้านบาทลุยสร้างท่อน้ำมันไปภาคเหนือ วงเงิน 7,500 ล้านบาท ประเดิมก่อสร้างคลังที่พิจิตร ม.ค. 59 นำร่องเฟสแรก
ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาบอร์ด BAFS ได้มีมติลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) จากเดิมที่ถืออยู่ 92% เหลือไม่เกิน 75% เพื่อเสนอขายให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงหรือคิดเป็นสัดส่วน 16.5% จำนวนหุ้น 8.6 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นธันวาคมนี้
“การขายหุ้นครั้งนี้ก็ยังรักษาอำนาจในการบริหารเพราะยังถือหุ้นอยู่ถึง 75% แต่ต้องการพันธมิตรร่วมทุนที่ขณะนี้มีผู้สนใจแล้ว 6-7 รายเกินกว่าที่เสนอขาย ซึ่งเป็นนักลงทุนไทยทั้งหมด มีทั้งผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ผู้ให้บริการด้านขนส่งหรือลอจิสติกส์ ซึ่งกำหนดให้เสนอราคาและเงื่อนไขมาแต่การซื้อแต่ละรายจะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3% แต่จะไม่เกิน 7%” ม.ร.ว.ศุภดิศกล่าว
ทั้งนี้ การหาพันธมิตรดังกล่าวแล้วหลังจากนั้น FPT จะมีการพิจารณาเพิ่มทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท และประมาณ 4,000 ล้านบาทอาจจะเป็นการออกหุ้นกู้หรือการกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อที่จะนำเงินดังกล่าวมาลงทุนโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ เงินลงทุนรวมประมาณ 7,500 ล้านบาท และในอนาคตจะมีการพิจารณาเฟส 3 เชื่อมต่อไปยังแม่สอดเข้าเมียวดี พม่า และเชื่อมจากลำปางไปท่าขี้เหล็กออกไปยังพม่า
“เราตัดสินใจลงทุนเพราะรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เพราะได้ตัดสินใจให้เอกชนรายใหม่หรือรายเดิม เราเห็นว่าธุรกิจนี้มีรายได้ต่ำแต่มีผลประโยชน์ตอบแทนด้านสังคมสูงเพราะจะทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกลดลง 20-40 สตางค์ต่อลิตรเพราะต้นทุนขนน้ำมันทางท่อจะถูกกว่ารถเฉลี่ยกว่า 50% แต่เรามองอนาคตเพราะนี่เป็นลอจิสติกส์กรีน” ม.ร.ว.ศุภดิศกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของ BAFS ไตรมาส 3 (9เดือนแรก) ยอดขายน้ำมันโต 9.4% แยกเป็นสุวรรณภูมิ 3.6% สนามบินดอนเมือง 50.4% ขณะที่มีรายได้ 2,473.1 ล้านบาท โต 11.4% คิดเป็นกำไรสุทธิ 789.89 ล้านบาท หรือโต 31.9% และคาดว่าผลประกอบการของ BAFS ปีนี้จะเป็นปีที่ดีสุดอีกปีหนึ่งหรืออาจเรียกว่านิวไฮได้
นายเจริญ จารุไสลพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายปฏิบัติการ บ. FPT กล่าวว่า ระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือของ FPT เฟสแรกจะเริ่มจากบางปะอิน-พิจิตร ลงทุน 4,000 ล้านบาท เฟส 2 จากกำแพงเพชร-ลำปาง ลงทุน 3,500 ล้านบาท โดยคาดว่าการก่อสร้างคลังน้ำมันพิจิตรจะเริ่มได้ ม.ค. 59 และเสร็จปี 2560 และระบบท่อจะเสร็จเฟสแรกปี 2560 เฟส 2 จะเสร็จปี 2561 รวมก่อสร้างทั้งหมดไม่เกิน 30 เดือน
