ASTVผู้จัดการรายวัน - “RSTA” ผนึกหน่วยงานรัฐ คุมเข้ม ยกระดับเรื่องความปลอดภัยขั้นสูงสุด ย่านราชประสงค์ วาง 3 มาตรการหลัก ทุ่มติดตั้งกล้องซีซีทีวี 4K ตั้งเป้าหากเกิดเหตุร้าย ภายใน 15 นาทีต้องจับภาพรู้ให้ได้ว่าใครเป็นผู้ต้องสงสัย
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพระบบรักษาความปลอดภัยในย่านราชประสงค์ โดยร่วมมือกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อยกระดับให้ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบบูรณาการอยู่ในระดับสูงสุดทั้งพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร โดยวางมาตราการ 3 ด้านคือ ด้านมาตรการป้องกันและการรองรับ ด้านเทคโนโลยี และด้านบุคลากร
โดยรวมแล้วคือ สร้างแผนยุทธศาสตร์ใหม่บูรณาการความปลอดภัย ป้องกันการประทุษร้ายต่อทรัพย์ ป้องกันการก่อการร้ายในพื้นที่ ควบคุมอาชญากรรมด้วยเทคโนโลยี เพิ่มกล้องซีซีทีวีเป็น 2,155 ตัว มีกล้องความละเอียดสูงเป็นกล้อง 4K ความละเอียยด 12 ล้านพิกเซล และกล้อง 360 องศา เพิ่มความคมชัดในการซูม จากปีที่แล้วมีกล้องซีซีทีวี 1,300 ตัวเป็นกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 30 ตัว
รวมทั้งการเชื่อมต่อกล้องซีซีทีวีด้วยรบไฟเบอร์ออพติคและไวไฟ ใช้จอมอนิเตอร์ฟูลเอชดี มีการใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรวม 482 นาย แบ่งเป็นภายในอาคาร 13 อาคารที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ เป็นจำนวน 470 นายต่อผลัดและสายตรวจเดินอีก 12 นายต่อผลัด ครอบคลุมสกายวอล์คกับพื้นที่สาธารณะ รวมถึงภายในบริเวณท่านท้าวมหาพรหม 1 นาย
“เรากำลังตรวจดูว่าตรงจุดไหนบ้างที่ต้องใช้กล้องซีซีทีวี 4K ในตำแหน่ง 80 กว่าจุดที่อยู่นอกอาคารซึ่งเดิมเราไม่เคยมีกล้อง 4K มาใช้เลย แต่ตอนนี้เริ่มติดตั้งกล้อง 4K แล้ว 1 ตัว และประสานกับ กทม.ว่าตรงไหนต้องปรับแก้ภูมิทัศน์และติดตั้งไฟส่องสว่างมากขึ้น เป็นต้น รวมทั้งสมาชิกของสมาคมฯ ก็จะปรับปรุงให้อยู่ในระดับคุณภาพที่มีการเชื่อมต่อกับห้องควบคุมของ RSTA ได้ด้วย”
“ที่ผ่านมาเราไปดูด้านการรักษาความปลอดภัยในหลายประเทศมา ตอนนี้ของเราดีเทียบเท่ากับประเทศอังกฤษ ทั้งยังดีกว่าสิงคโปร์และฮ่องกงด้วย ในแง่ของมาตรฐานกล้องการกระจายการดูแลและการควบคุมคือสิ่งที่เอามาประยุกต์ใช้ จริงๆ แล้วเรื่องลงทุนไม่เท่าไร สิ่งที่สำคัญคือความปลอดภัยที่เราได้มา เพราะทุกวันนี้มีคนเข้ามาในย่านนี้มากกว่า 3 แสนคนต่อวัน โดยในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 25% ด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมามากที่สุดและเร็วที่สุด ยิ่งเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วจะยิ่งทำให้มีคนเข้ามากรุงเทพฯ มากขึ้นอีกด้วย โดยเราตั้งความหวังไว้ว่าหากเกิดเหตุอะไรควรใช้เวลาน้อยที่สุดไม่เกิน 15 นาทีที่จะต้องจับภาพให้ได้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเหตุการณ์ล่าสุดที่ระเบิดที่ศาลท่านท้าวมหาพรหมใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงสามารถจับหาภาพผู้ต้องสงสัยได้” นายชาย กล่าวในตอนท้าย
พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. กล่าวว่า สตช. บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สน.ลุมพินี ตำรวจนครบาล สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือ EOD ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจกองปราบฯ และตำรวจสันติบาล เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งในช่วงเทศกาลและช่วงปรกติในย่านราชประสงค์ โดยร่วมมือกับ RSTA ในการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตรวจหาผู้กระทำผิดซึ่งในพื้นที่ย่านนี้ถือว่ามีการรักษาความปลอดภัยสูงที่สุด
ด้าน นางสาวราณี สิทธิแก้ว ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ โซลูชั่น บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ติดตั้งกล้อง 4K เพื่อเพิ่มความคมชัด ปรับแต่งค่าความละเอียดให้คมชัด ปรับมุมกล้องให้แคบลงเพื่อจับตาดูทุกความเคลื่อนไหว หรือผิดปรกติได้แม่นยำมากขึ้น
ล่าสุดได้พัฒนาเรื่อง Analytic โดยนำซอฟต์แวร์อัจฉริยะในการวิเคราะห์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลีของ “พานาโซนิค” โดยเฉพาะมาใช้ โดยทันทีที่กล้องจับภาพได้ว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง หรือวัตถุต้องสงสัยจะมีการแจ้งเตือนในทันที พร้อมการมอนิเตอร์ภาพแบบองค์รวมจากกล้องบริเวณห้างสรรพสินค้าโดยรอบมารวมกันไว้ที่ห้องคอนโทรลรูม