xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์ตอบรับนำเข้าสัตว์ปีก เนื้อสุกร ไข่ไก่ จากไทย พร้อมช่วยพัฒนาเรือสำราญดึงนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อภิรดี” เผยสิงคโปร์ตอบรับนำเข้าปศุสัตว์จากไทย ทั้งสัตว์ปีกแช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูปปรุงสุก รวมถึงเนื้อสุกร หาก OIE ประกาศเป็นพื้นที่ปลอดโรคปากเท้าเปื่อย และไข่ไก่ หากปลอดเชื้อซัลโมเนลลา ระบุยังสนใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งรถไฟ สนามบิน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมช่วยไทยพัฒนาท่าเรือสำราญดึงนักท่องเที่ยว

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสิงคโปร์-ไทย (Singapore - Thailand Enhanced Economic Relationship : STEER) ครั้งที่ 4 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์ได้ตอบรับที่จะพิจารณาให้สินค้าปศุสัตว์ไทยเข้าตลาดได้สะดวก และมากขึ้น ได้แก่ สินค้าสัตว์ปีกสดแช่เย็นแช่แข็ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้การรับรองโรงงาน และฟาร์มเลี้ยงเพิ่มเติม สัตว์ปีกแปรรูปปรุงสุก โดยจะพิจารณาจัดทำแบบฟอร์มเพื่อให้กรมปศุสัตว์ไทยเป็นผู้รับรองสินค้าเอง เนื้อสุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง จะให้มีการนำเข้า หากไทยได้รับการประกาศจาก OIE ว่าเป็นพื้นที่ปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนั้น ยังสนใจนำเข้าไข่ไก่จากไทยด้วย หากปลอดเชื้อซัลโมเนลลา

ทั้งนี้ สิงคโปร์ยังสนใจการลงทุนในโครงการต่างๆ ของไทย ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางราง รถไฟ และท่าอากาศยาน เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 การซ่อมบำรุงสนามบินอู่ตะเภา โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน พลังงานขยะ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมในสาขาที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

ขณะเดียวกัน ได้จัดทำความตกลงการยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Agreement : MRA) ในโครงการผู้ประกอบการมาตรฐานเออีโอ (Authorized Economic Operator : AEO) ซึ่งจะช่วยให้พิธีการศุลกากรสะดวกขึ้น คาดว่าจะร่วมลงนามแผนปฏิบัติการร่วมกันในปี 2559

นางอภิรดี กล่าวว่า สิงคโปร์ได้เสนอให้มีการแก้ไขพัฒนาการความตกลงเพื่อให้ทันต่อการขยายตัวของสายการบินจากไทยไปสิงคโปร์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก แต่ความตกลงยังตามไม่ทัน และยังเสนอให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคในการพัฒนาท่าเรือสำราญเพื่อการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (cruise) ในประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากยุโรป และอเมริกาให้มาเที่ยวไทย และกลุ่มประเทศในเอเชียมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ไทยกำลังพัฒนาท่าเรือภูเก็ต ส่วนอีก 2 แห่ง คือ กระบี่ และสมุย อยู่ในระหว่างการพิจารณา

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นต้นแบบการพัฒนา e-commerce สำหรับ SMEs มี common platform สำหรับ SMEs และมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการน่าจะเรียนรู้จากสิ่งนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ประเทศจะมีการประชุม STEER ครั้งต่อไปปี 2559 โดยสิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพ

นางอภิรดี กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาสิงคโปร์ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันในด้านการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ การส่งเสริมนวัตกรรม การคุ้มครอง การพัฒนากฎหมาย และความร่วมมือด้านการตรวจสอบสิทธิบัตร

สำหรับสิงคโปร์ มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดกับไทย เป็นเมืองหน้าด่านของไทยในการส่งสินค้าออกไปยังตลาดโลก เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 5 ของไทยในโลก ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของสิงคโปร์ ในปี 2557 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 18,334.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออก 10,450 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้า 7,884.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ ส่วนสินค้าที่นำเข้าสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น