ทีวีดิจิตอลมวยรองฮึด รุกหนักชิงเรตติ้งปีหน้า

ASTVผู้จัดการรายวัน - ล้วงลูกทีวีดิจิตอลกลุ่มเรตติ้งต่ำ ปีครึ่งคว้าน้ำเหลว โฆษณาเมิน ล่าสุด ได้โอกาสรุกหนักชิงพื้นที่ชวนเชื่อ สร้างจุดขาย ชูโพซิชันนิงที่แตกต่าง หวังเอเยนซี และเจ้าของสินค้ามองเห็นเป็นม้านอกสายตา เชื่อปีหน้า 21 ช่องทีวีดิจิตอลบูม เข้าถึงกลุ่มคนดูมากกว่า 6 ช่องฟรีทีวีเดิม เหตุเทคโนโลยีส่งผลต่อพฤติกรรมผู้ชมกล่องทีวีดิจิตอลเข้าถึงได้แล้วกว่า 6 ล้านกล่อง โอกาสทองสร้างรายได้โฆษณาจากสินค้าเอสเอ็มอี และรายย่อยที่ไม่เคยลงโฆษณามาก่อน

มรสุมทีวีดิจิตอลตลอดช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา จากที่เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 เสียงส่วนใหญ่จากสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิตอล 21 ช่อง ต่างโอดครวญไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต่างตระหนักกันดีคือ การเข้าถึงทีวีดิจิตอลของประชากรไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ขณะที่การเรียงเลขช่องก็ยังแก้ไม่ตก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บกพร่องต่อการทำหน้าที่ที่ควรจะมุ่งผลักดัน และสนับสนุนการเกิดทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง และไร้ซึ่งความเข้าใจในสถานการณ์ของอุตสาหกรรมบรอดคาสติ้งในประเทศไทย

ระยะเวลาแค่เพียงปีกว่าเสียงโอดครวญจากสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิตอลถือว่าดังไม่แพ้กระแสกีฬาที่กำลังมาแรงของบ้านเรา เพียงแต่กีฬากำลังก้าวสู่ในจุดที่สูงขึ้น แต่ทีวีดิจิตอลกำลังเหนื่อยต่อการคลานเพื่อให้สูงขึ้น

จากปัจจุบัน สามารถแบ่งกลุ่มช่องทีวีดิจิตอลได้ 3 กลุ่มหลักคือ 1.ฟรีทีวีเดิม กลุ่มนี้ลอยตัว โฆษณายังดีอยู่ 2.ช่องใหม่ สายป่านยาว แบ็กอัปหลังบ้านดี ตอนนี้ยังคงขับเคลื่อนต่อไหว โฆษณาเริ่มเข้า และ 3.ช่องใหม่ เรตติ้งไม่มี เอเยนซียังกล้าลงโฆษณา

อย่างไรก็ตาม จากงานเสวนาในหัวข้อ “ส่องศึกดิจิตอลทีวีปี 59 Digital TV : 2016 Battle” ก่อนหน้านี้ ที่จัดขึ้นโดย กรุ๊ปเอ็ม และมีตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิตอล 6 ช่องเข้าร่วมเสวนา ได้แก่ MONO29, เนชั่น แชนแนล, นิวทีวี, วอยซ์ทีวี, ไบร์ททีวี และTRUE4U สรุปได้ว่า ทิศทางทีวีดิจิตอลในปี 2559 จะเป็นปีแห่งโอกาสของกลุ่มทีวีดิจิตอลที่ยังไม่มีเรตติ้ง

เนื่องจากปีนี้ยังไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเอเยนซี และเจ้าสินค้ามากนัก กลุ่มนี้จะเร่งสร้างจุดแข็ง และคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เข้าถึงเซกเมนเตชันของกลุ่มผู้ชมมากขึ้นเพื่อนำมาซึ่งเรตติ้ง ขณะเดียวกัน การเข้าถึงทีวีดิจิตอลของผู้ชมจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันกล่องทีวีดิจิตอลแจกออกไปแล้ว 6 ล้านกล่อง ส่งผลให้ผู้ชมมีช่อง และคอนเทนต์ที่น่าสนใจให้รับชมมากขึ้น ส่งผลให้โฆษณาจะไม่จำกัดอยู่แค่ช่องเดิม เจ้าของสินค้าและโฆษณาโดยเฉพาะรายใหม่อย่างเอสเอ็มอีจะหันมาลงโฆษณาในช่องทีวีดิจิตอล ถือเป็นโอกาสของกลุ่มทีวีดิจิตอลช่องใหม่ๆ ที่จะสร้างรายได้จากโฆษณาได้ดีขึ้น

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กลุ่มช่องฟรีทีวีเดิมอาจจะมองข้ามช่องทีวีดิจิตอลที่เกิดใหม่ ปีก่อนอาจจะยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ในปีนี้เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้วว่า ทีวีดิจิตอลบางช่องสามารถสร้างคอนเทนต์เรียกเรตติ้งในบางช่วงเวลาได้อย่างน่าสนใจ หรือดีกว่าช่องฟรีทีวีเดิมไปแล้ว ซึ่งในเดือน เม.ย.ปีก่อนกลุ่มช่องทีวีดิจิตอลเกิดใหม่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมเพียง 6% เท่านั้น

แต่ตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 30% แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 4.8% จากเดือนก่อนหน้า และถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มช่องฟรีทีวีเดิมมีสัดส่วนเข้าถึงผู้ชมอยู่ที่ 48% หรือติดลบที่ 2.4% จากปกติจะมีสัดส่วนมากกว่า 50% มาโดยตลอด

แน่นอนว่าสัญญาณการเติบโตของทีวีดิจิตอลช่องใหม่เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าภายในเดือน ก.ค.ปี 59 จำนวนทีวีดิจิตอลทั้ง 21 ช่อง จะมียอดคนดูมากกว่าช่องฟรีทีวีเดิม 6 ช่องได้

“ทีวีดิตอลทั้ง 21 ช่อง ในเดือน ก.ค.2559 จะครองสัดส่วนผู้ชมมากกว่าฟรีทีวี 6 ช่องเดิม ด้วยปัจจัยสำคัญคือ ตลาดทีวีดิจิตอลเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ชมเปลี่ยน การเข้าถึงของ3G/4G และมีเดียเป็นตัวเร่งให้ผู้ชมมีพฤติกรรมการรับชมที่เปลี่ยนไป”

ด้าน นายนวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ปีครึ่งที่ผ่านมา อุตสาหกรรมทีวีดิตอลมีอุปสรรคเยอะมาก แต่เชื่อว่าโอกาสของทีวีดิจอลยังคงมีอยู่สูงจากพฤติกรรมคนไทยที่ไม่ยึดติด เปิดใจรับสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี พร้อมเปลี่ยนแปลงลองสิ่งใหม่ๆ ส่งผลให้ฟรีทีวีเดิมเริ่มมีเรตติ้งลดลง และทีวีดิจิตอลเริ่มมีเรตติ้งที่ดีขึ้น

ในฐานะช่องโมโน 29 รวมถึงช่องอื่นๆ ต่างที่จะต้องพัฒนา นำเสนอคอนเทนต์ที่ดี มีเซกเมนต์ที่ชัดเจนเพื่อดึงคนดูให้มากขึ้น อันจะทำให้เกิดเรตติ้ง และรายได้โฆษณาตามมา

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการที่เหลือส่วนใหญ่จะพบปัญหาเดียวกันคือ ช่วงเวลาที่ผ่านต่างมีอุปสรรค และต้องปรับตัวปรับคอนเทนต์ ปรับโพซิชันนิงช่องใหม่ เกิดความแตกต่าง จากการที่รายได้โฆษณายังไม่ดีนัก เอเยนซี และเจ้าของสินค้ายังไม่สนใจ ส่งผลให้ทุกช่องต่างต้องเร่งสร้างการรับรู้ถึงโพซิชันนิงของแต่ละช่อง ชูจุดแข็งและความแตกต่างเพื่อดึงดูดรายได้ที่จะเข้ามาหลังจากนี้

ไม่ว่าจะเป็น “วอยซ์ทีวี” ที่ชูโพซิชันนิง “NEWS & KNOWLEDGE” ฐานผู้ชมหลักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการแสวงหาความรู้ และข่าวสาร จึงพร้อมพัฒนาช่องทางการรับชมไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เหล่านี้ถือเป็นจุดแข็งของ “วอยซ์ทีวี”

ส่วน “ไบรท์ทีวี” ชูจุดแข็งเป็นช่องที่เข้าถึง และคลุกคลีกับผู้ชม มาพร้อมคอนเทนต์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตในสังคม ต้องการให้คนไทยมีชีวิตทีดี ภายใต้สโลแกน “ชีวิตดี ดูไบรท์ทีวี”

ขณะที่ “นิวทีวี” ปีนี้มีการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ และวางโพซิชันนิงกลับมาเป็นช่องข่าว และสารคดีเช่นวันแรกที่ออกอากาศ เนื่องจากผู้ชมรู้จักช่อง “นิวทีวี” จากการนำเสนอสารคดี ปัจจุบัน “นิวทีวี” จึงถือเป็นช่องอันดับ 1 เกี่ยวกับสารคดี

ส่วนช่อง “TRUE4U” มีการวางแผนธุรกิจไว้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยกลยุทธ์ “วิน วิน วิน” โดยทั้งช่อง TRUE4U, เอเยนซี และผู้ชมจะต้องได้รับประโยชน์ไปด้วยกัน จะต้องดูว่าโฆษณาต้องการอะไร ผู้ชมต้องการอะไร อันนำมาซึ่งคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพที่ส่งผลให้ทางช่องมีเรตติ้ง และรายได้ตามมา

การแสดงทัศนะของทีวีดิจิตอลหน้าใหม่ครั้งนี้เมื่ออยู่รวมกันทำให้เกิดเสียงที่ดังขึ้นไปอีก เชื่อว่าจะทำให้เอเยนซี และเจ้าของสินค้าหันมามองถึงโอกาส และการลงโฆษณากับทางช่องเหล่านี้ จากเดิมที่ปล่อยให้ช่องอื่นๆ ออกตัวไปก่อน และมีเรตติ้งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

การเปิดพื้นที่ให้ช่องทีวีดิจิตอลกลุ่มที่ 3 ครั้งนี้น่าจะเป็นอีกแรงผลักดันที่สำคัญที่จะทำให้การคลานของทีวีดิจิตอล ยกระดับมาเป็นการรุกขึ้น และก้าวเดินไปข้างหน้า และเป็นไปตามที่หลายฝ่ายต่างหวังไว้ว่า ปี2559 จะเป็นปีที่ดีของทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริง