การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ยังไม่ดีพอของคนไทย ส่งผลให้มียอดใช้จ่ายส่วนเกินมากถึง 72% ของรายจ่ายโดยเฉลี่ยในแต่ละสัปดาห์ หรือคิดเป็นมูลค่ามากถึง 60,000 บาทต่อปี!
ผลสำรวจฉบับล่าสุดเกี่ยวกับ “ค่าใช้จ่ายปริศนา” จัดทำโดย YouGov บริษัทสำรวจและวิจัยทางอินเทอร์เน็ตระดับสากล ในนามของ “วีซ่า” ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก เน้นให้เห็นถึงประโยชน์ของการวางแผนการจัดการทางการเงินอย่างชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับผลตอบแทนที่ดีตามมา เนื่องจากในแต่ละปีมีเงินมูลค่ากว่า 60,000 บาทที่สูญหายไปจากการละเลยการจัดการทางการเงิน
การสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 3-6 สิงหาคม 2558 มีผู้ทำแบบสอบถามทั้งหมด 11,000 รายจากประเทศออสเตรเลีย, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไต้หวัน, เวียดนาม และไทย โดยผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคไม่สามารถระบุได้ว่าตนเองใช้จ่ายไปกับสินค้า หรือบริการชนิดใดบ้างในชีวิตประจำวัน
“วีซ่า” นิยาม “ค่าใช้จ่ายปริศนา” โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ใช้ไป โดยไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ไปกับสิ่งใดซึ่งแตกต่างและไม่รวมถึงจำนวนเงินที่ถูกขโมย หรือวางไว้ผิดที่ออกจากการสำรวจ
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบในระยะยาวจากการขาดการวางแผนทางการเงิน ดังนั้น การบริหารงบการเงินของเราเองจึงควรเริ่มจากค่าใช้จ่ายก่อนเป็นลำดับแรก ไม่ว่างบการเงินจะมาก หรือน้อยก็ตาม
นอกจากนี้ ผลสำรวจได้เผยให้เห็นอีกว่าคนไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 1,588 บาท ซึ่งในจำนวนนี้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ไปกับสิ่งใดถึง 1,143 บาท หรือ 72% ของรายจ่ายทั้งหมด โดยผู้บริโภคชาวไทยที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าค่าใช้จ่ายปริศนาที่เกิดขึ้นนั้น 49% มาจากค่าอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และค่าขนมขบเคี้ยว และกว่า 45% เกิดจากการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 36% ที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าค่าใช้จ่ายปริศนาที่เกิดขึ้นส่วนมากหมดไปกับค่าอาหารกลางวันที่รับประทานอยู่ทุกวัน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 21%
กลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นอายุระหว่าง 18-24 ปี มีค่าใช้จ่ายปริศนาถึง 45% ซึ่งหมดไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง เช่น ค่าเที่ยวกลางคืน ค่าปาร์ตี้ ค่าดูหนัง ซึ่งมีค่าสูงกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุมากกว่า โดยรวมแล้วกลุ่มวัยรุ่นมีค่าใช้จ่ายปริศนาอยู่ที่ 1,091 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับกลุ่มผู้บริโภควัยอื่นๆ
จากผลการสำรวจพบว่าผู้บริโภคชาวไทยมียอดใช้จ่ายปริศนามากที่สุด (72%) ในบรรดาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทำแบบสำรวจ ตามมาด้วยอินโดนีเซีย (57%) เวียดนาม (48%) สิงคโปร์ (45%) มาเลเซีย (44%) และฟิลิปปินส์ (42%)
“ทุกวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้บริโภคส่วนมากไม่สามารถบริหารจัดการทางการเงินแบบวันต่อวันได้ดีเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้การทำให้ทุกคนเห็นว่าการติดตามและตรวจสอบค่าใช้จ่าย และการบริหารเงินเป็นเรื่องที่สำคัญ”
นายสุริพงษ์กล่าวในตอนท้ายว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีความปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้มากกว่าเงินสด เช่น การที่เราสามารถดูค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือแม้กระทั่งใช้บริการแจ้งเตือนทาง SMS ซึ่งการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมทางการเงินจะทำให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ และยังช่วยให้ค่าใช้จ่ายปริศนามีจำนวนลดลง