เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ที่ทำในสหรัฐอเมริกาโดยสำนักวิจัยชื่อดัง “แกลลัป โพลล์” พบข้อมูลที่ระบุว่า ชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งมองรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่า เป็นภัยคุกคามที่เลวร้ายที่สุดต่อสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองอเมริกัน
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดยแกลลัป โพลล์ที่มีการเผยแพร่ในวันอังคาร ( 22 ก.ย.) ระบุ ร้อยละ 49 หรือเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในสหรัฐฯ ลงความเห็นว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นองค์กรที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามและลิดรอนสิทธิเสรีภาพของพลเมืองอเมริกันด้วยกันมากที่สุด
ผลสำรวจล่าสุดถูกระบุว่าให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการสำรวจในหัวข้อเดียวกันนี้ ของสำนักวิจัยแกลลัปตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ที่มีกลุ่มตัวอย่างราวครึ่งหนึ่งระบุว่า รัฐบาลอเมริกันเป็นภัยคุกคามสิทธิเสรีภาพของพวกเขา
อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ทางแกลลัป โพลล์ เริ่มทำการสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในประเด็นนี้ กลับพบข้อมูลว่า ในปีดังกล่าว มีกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันไม่ถึง 1 ใน 3 ที่มองว่า รัฐบาลอเมริกันเป็นภัยคุกคามสิทธิเสรีภาพของพวกเขา
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพิ่งมีผลสำรวจความคิดเห็นในสหรัฐอเมริกาซึ่งสร้างความตกตะลึงไม่น้อย หลังจากที่ผลสำรวจโดยสำนักวิจัย “YouGov” พบข้อมูลน่าประหลาดใจที่ระบุว่า ราว 29 เปอร์เซ็นต์หรือเกือบ 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันจะให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันเต็มที่ หากกองทัพสหรัฐฯ ลงมือก่อเหตุรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลอเมริกัน
ผลสำรวจดังกล่าวเผยถึงข้อมูลสุดช็อก ซึ่งสวนทางกับจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐฯที่ประกาศตัวต่อต้านการยึดอำนาจในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกแบบหัวชนฝามาโดยตลอด
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ยังระบุด้วยว่า กลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันที่เป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่า จะให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ หากกองทัพก่อเหตุยึดอำนาจจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้สนับสนุนของพรรคเดโมแครต และกลุ่มตัวอย่างที่มีจุดยืนทางการเมืองแบบอิสระ ระบุว่า พวกตนจะหนุนหลังการทำรัฐประหารของกองทัพ เพื่อโค่นอำนาจของรัฐบาลอเมริกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่สัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ และ 29 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ