“แอลจี” เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ขยายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าในไทยเป็น 3 ล้านเครื่องต่อปี หวังสร้างการเติบโตเพิ่ม 20% และครองอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 15 พร้อมเดินหน้ารุกตลาดภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “แอลจี” ยังคงมีความมั่นใจว่าในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและเศรษฐกิจประเทศไทยว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและแข็งแกร่งขึ้น จึงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ “แอลจี” ในประเทศไทยด้วยการขยายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าที่โรงงานในจังหวัดระยอง เป็น 3 ล้านเครื่องต่อปี จากปัจจุบัน 2.5 ล้านเครื่องต่อปี ภายใต้งบฯ ลงทุน 100 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างการเติบโตให้แก่กลุ่มเครื่องซักผ้า “แอลจี” ได้ 20% และทำให้ “แอลจี” ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15
การขยายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าในครั้งนี้เพื่อสอดรับกับการเปิดการค้าเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นอกจากความต้องการการใช้งานของผู้บริโภคภายในประเทศและนอกประเทศจะเพิ่มขึ้นแล้วยังส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตและเป็นผลดีต่อการขยายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าอีกด้วย โดยในส่วนของประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญในการส่งออกเครื่องซักผ้าฝาบนและเครื่องซักผ้าสองถังไปทั่วโลก นอกจากนี้ “แอลจี” ยังเป็นผู้นำในการส่งออกเครื่องซักผ้าฝาหน้าไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย การเพิ่มการลงทุนในครั้งนี้จึงทำให้มั่นใจว่าจะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกเครื่องซักผ้าฝาหน้าไปทั่วโลก
อนึ่ง ตั้งแต่ต้นปี 2558 “แอลจี” เปิดตัวเครื่องซักผ้าสู่ตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ เครื่องซักผ้าฝาบน LG Turbo Shot ที่มาพร้อมเทคโนโลยี TurboShotTM มอบพลังซักทรงประสิทธิภาพ เนื่องจากมอเตอร์ต่อตรงระบบอินเวอร์เตอร์ ไดเรกต์ ไดรฟ์ (Inverter Direct Drive) ที่ช่วยให้ถังซักหมุนได้อย่างรวดเร็วทรงพลังและด้วยการทำงานที่สร้างน้ำวนอันทรงพลังภายในถังซัก ทำให้สามารถขจัดคราบฝังลึกในเนื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังประหยัดน้ำได้ถึง 27% (ทดสอบจากสถาบัน KATRI : Korea Apparel Testing and Institute)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีซิกส์ โมชัน ไดเรกต์ ไดรฟ์ (ลิขสิทธิ์เฉพาะจากแอลจี) ด้วยถังซักที่สามารถเคลื่อนที่ได้ถึงหกทิศทาง ช่วยถนอมผ้าเสมือนซักด้วยมือ ทั้งยังช่วยขจัดคราบผงซักฟอกไม่ให้ตกค้างบนเนื้อผ้า ประหยัดพลังงานและอัตราการใช้น้ำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Tub Clean ที่ช่วยทำความสะอาดถังซักให้สะอาดหมดจดเพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้งาน รวมถึงโปรแกรม Auto Pre-Wash ที่ช่วยเพิ่มการพลังการซัก 1 ครั้งก่อนการซักปกติภายในเวลาเพียง 8 นาที