แจงข่าวน้ำท่วมดอนเมือง! ทอท.ยันระบบระบายน้ำไม่มีปัญหา รับมือฝนชุกได้

ทอท.แจงมาตรการป้องกันน้ำท่วมขังสนามบินดอนเมืองจากเหตุพายุ
ฝนตกหนักในช่วงนี้ เผยมีสถานีสูบน้ำรอบสนามบิน ชี้ที่ผ่านมาระบายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เหตุ ถ.วิภาวดีฯ มีน้ำท่วมขังและการก่อสร้างรถไฟสีแดง เร่งประสาน ร.ฟ.ท.วางท่อและขุดลอกทางระบายน้ำ พร้อมทบทวนออกแบบระบบระบายน้ำของสนามบินใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ในช่วงเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา เกิดพายุและฝนตกหนักบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ส่งผลให้ไม่สามารถระบายน้ำฝนออกนอกพื้นที่ได้ทัน และเกิดน้ำท่วมขังภายในสนามบินเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งได้มีระบบการระบายน้ำฝนแบบระบบปิด โดยเป็นการสูบระบายน้ำจากสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่รอบสนามบิน ทั้งหมด 12 สถานี สามารถระบายน้ำได้ 48,840 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง รวมกับสถานีสูบระบายน้ำของกองทัพอากาศ (ทอ.) จำนวน 2 สถานีที่สามารถสูบระบายน้ำได้อีก 26,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และบ่อเก็บน้ำทางด้านทิศเหนือของสนามบินสามารถรับน้ำได้ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในภาวะปกติจะคงน้ำไว้ 3 แสนลูกบาศก์เมตร

โดยจะแบ่งพื้นที่สูบระบายน้ำออกเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ 1. พื้นที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ประมาณ 2,300,000 ตารางเมตร) ระบายน้ำลงสู่คลองถนน มีสถานีสูบน้ำของสนามบินจำนวน 4 สถานี ประสิทธิภาพการสูบน้ำ 20,520 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และสถานีสูบน้ำของ ทอ.จำนวน 2 สถานี ประสิทธิภาพการสูบน้ำ 26,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ปริมาณความสามารถในการสูบระบายน้ำรวม 47,020 ลูกบาศก์เมตร 2. พื้นที่ทิศเหนือ (ประมาณ 2,500,00 ตารางเมตร) ระบายน้ำลงสู่คลองเปรมประชากร โดยทิศทางระบายน้ำผ่านท่อลอดถนนวิภาวดีรังสิตไปออกลำรางสาธารณะริมทางรถไฟลงสู่คลองเปรมประชากร มีสถานีสูบน้ำจำนวน 3 สถานี และสูบน้ำลงบ่อเก็บน้ำอีก 2 สถานี ประสิทธิภาพการสูบน้ำรวม 19,080 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และ 3. พื้นที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ประมาณ 1,160,000 ตารางเมตร) ระบายน้ำลงสู่คลองเปรมประชากร มีสถานีสูบน้ำจำนวน 3 สถานี ประสิทธิภาพการสูบน้ำรวม 9,240 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

นายนิตินัยกล่าวว่า ระบบการระบายน้ำดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่สนามบินได้ เนื่องจากมีน้ำฝนที่ท่วมขังผิวจราจรตลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิตได้ไหลเข้าเขตพื้นที่สนามบินดอนเมืองตามช่องทางเข้า-ออกต่างๆ ส่วนทางด้านทิศเหนือที่มีการสูบระบายน้ำไปลงยังลำราง
สาธารณะริมทางรถไฟ จะทำให้น้ำบางส่วนล้นจากลำรางไหลท่วมพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟ และสำหรับการสูบระบายน้ำทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสนามบินมีการดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ดำเนินการโดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และมีการถมกลบลำรางสาธารณะที่มีอยู่เดิม ซึ่งใช้เป็นทางระบายน้ำของสนามบินจึงไม่สามารถระบายน้ำลงสู่คลองเปรมประชากรได้อย่างสะดวก ทำให้น้ำฝนสะสมภายในท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทอท.ได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยประสานกับ ร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 เพื่อขอความร่วมมือดำเนินการเร่งรัดให้ดำเนินการวางท่อระบายน้ำทดแทนลำรางระบายน้ำสาธารณะที่ถูกถมกลบ โดย ร.ฟ.ท.ได้ลงพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาจากการระบายน้ำเมื่อฝนตก และได้ดำเนินการขุดลอกลำรางระบายเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ซึ่งจะทำให้สามารถสูบระบายน้ำเพิ่มได้อีก 7,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้น ทอท.ยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงการทางกรุงเทพ สำนักการระบายน้ำ และเขตดอนเมือง เป็นต้น

เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป รวมทั้ง ทอท.จะดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจำนวน 2 เครื่อง เพื่อสูบน้ำลงสู่ลำรางสาธารณะข้างถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า ซึ่งจะสามารถสูบระบายน้ำได้ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และ ทอท.จะพร่องน้ำในพื้นที่สนามบินให้อยู่ในระดับต่ำสุด เพื่อรองรับน้ำฝนที่อาจมีปริมาณมาก นอกจากนั้น ทอท.จะทบทวนและออกแบบระบบระบายน้ำของสนามบินใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีการก่อสร้างอาคาร และระบบสาธารณูปโภคทั้งภายในและภายนอก สนามบินที่ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ ตลอดจนดำเนินการก่อสร้างแนวเนินสะดุดช่องทางเข้า-ออก เพื่อใช้เป็นแนวกั้นน้ำจากถนนวิภาวดีรังสิตด้วย