“LAWSON 108” ประกาศกร้าวได้ผลกำไรตามเป้า ยันเดินแผนธุรกิจอย่างรอบคอบและมั่นคง ส่งผลยอดขายโตต่อเนื่องปีละ 15% เผยปี 59 เตรียมแผนการตลาดเฉพาะแต่ละสาขา ก่อนเปิดแฟรนไชส์ช่วงปลายปี พร้อมปรับรูปแบบ “108 ชอป” บางสาขา ส่งผลขยายสาขาครบตามเป้า 1 พันแห่งในปี 2562-2563
นายกันตพัฒน์ อิทธิระวิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ “LAWSON 108” และ “108 ชอป” ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้านสะดวกซื้อ “LAWSON 108” มีทั้งสิ้น 41 สาขา โดยในปี 2558 ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ที่เปิดดำเนินธุรกิจได้เปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 20 แห่ง และจะขยายเพิ่มอีก 8 แห่งตามแผนที่วางไว้ ขณะที่ปี 2559 ตั้งเป้าขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 105-110 แห่ง ลงทุนสาขาละประมาณ 3 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 50% และต่างจังหวัด 50%
แนวทางขยายสาขาต่างจังหวัดจะเน้นพื้นที่ที่มีเครือข่ายด้านลอจิสติกส์ของเครือสหพัฒน์เป็นหลัก และมีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป โดยปัจจุบันมี 2 สาขาที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทั้งยังมีอีก 2 สาขาที่ จ.นครราชสีมา และ 1 สาขาที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยในปี 2559 จะยังคงเน้นขยายสาขาในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น และอุดรธานี เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทฯ มีการเตรียมและจัดทำแผนการตลาดและธุรกิจในปี 2559 เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของแผนการตลาดจะดำเนินงานในลักษณะ LSM หรือ Local Store Marketing ร่วมกับคู่ค้า พันธมิตร ตลอดจนซัปพลายเออร์ในการจัดทำแคมเปญต่างๆ ให้สาขาแต่ละแห่งในแต่ละทำเล ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของจำนวนประชากร รวมถึงพฤติกรรมและกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่วนแผนธุรกิจคาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดและรูปแบบของการเปิดขายแฟรนไชส์ได้ภายในช่วงปลายปี 2559
“การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ให้ความสำคัญในเรื่องของทำเลที่ตั้งเป็นหลัก โดยยึดแนวทางว่าต้องวางพื้นฐานอย่างรอบคอบและมั่นคงเพื่อให้สามารถทำกำไรได้ภายใน 3-6 เดือน จึงยังทำให้มีจำนวนสาขาไม่มากนัก แต่หากวัดผลในเรื่องของผลกำไรอาจกล่าวได้ว่าบริษัทฯ สามารถดำเนินงานได้ผลตามเป้าหมาย ทำให้ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 15% โดยคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% หลังเปิดแฟรนไชส์ในปี 2559 และส่งผลให้มีจำนวนสาขาไม่น้อยกว่า 1 พันแห่งในปี 2562-2563 พร้อมเป็นร้านสะดวกซื้ออันดับ 2 จากปัจจุบันที่ยังคงอันดับ 3 ในตลาด”
“LAWSON 108” มีความแตกต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วไป คือการมีบรรยากาศและสไตล์ญี่ปุ่นในลักษณะ Japanese Signature โดยแต่ละสาขามีพื้นที่ประมาณ 100-120 ตารางเมตร เน้นสัดส่วนสินค้ากลุ่มอาหาร 75% และอื่นๆ 25% ทั้งยังมีสินค้าอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงปกติประมาณ 10% และจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยสาขาที่ถือเป็นแฟล็กชิปซึ่งมีสินค้าครบทุกประเภทคือสาขาอาคารเมอร์คิวรี่ ทาวเวอรี่ เพลินจิต พื้นที่ประมาณ 140 ตารางเมตร ขณะที่ยอดขายของสาขาในกรุงเทพฯ สามารถทำได้วันละประมาณ 5-8 หมื่นบาท ลูกค้ามียอดซื้อต่อครั้ง 53-55 บาท ส่วนสาขาต่างจังหวัดมียอดขายวันละประมาณ 4 หมื่นบาท ลูกค้ามียอดซื้อต่อครั้ง 45 บาท
ปัจจุบันร้าน “LAWSON 108” มี 3 รูปแบบ คือ 1. ร้านสะดวกซื้อทั่วไป (Regular) 2. ร้านคิทเช่น (Kitchen) เน้นจำหน่ายอาหารปรุงสุกสดใหม่ พร้อมที่นั่งให้ลูกค้าตั้งแต่ 5-20 ที่นั่ง 3. คีออสก์ (Kiosk) ขนาดเล็กพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตรเพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกพนักงานให้มีความชำนาญ ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 1 สาขาที่อาคารบางกอกทาวเวอร์ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ โดยในอนาคตมีแผนที่จะขยายร้านลักษณะนี้เพิ่มขึ้นอีก รวมถึงกำลังศึกษารูปแบบสาขาใหม่ที่จะเปิดบริการในปี 2559 ทั้งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพิ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ หรือออร์แกนิกเพิ่มขึ้นด้วย
นายกันตพัฒน์กล่าวด้วยว่า การจัดแคมเปญส่งเสริมการขายด้วยการสะสมแต้มและแสตมป์ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ในยุคปัจจุบันเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าให้กลับมาใช้บริการในครั้งต่อไป โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการจัดแคมเปญในลักษณะดังกล่าวแล้วหลายครั้ง ล่าสุดคือการสะสมแต้มแลกแก้วกาแฟลายแมว “โคตะ คุง” (Kohta Kun) ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 8%
อนึ่ง ร้าน “108 ชอป” ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 160 สาขา โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น บริษัทฯ มีแผนพัฒนาและปรับปรุงบางสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็น “LAWSON 108” โดยจะพิจารณาถึงเรื่องยอดขาย กำลังซื้อ และความสะดวกด้านลอจิสติกส์เป็นหลัก
