“บีโอไอ” เตรียมกางผลศึกษา 12 ต.ค.นี้ โชว์ให้เห็นศักยภาพโอกาสการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่ ได้แก่ ไนจีเรีย คีร์กิซสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน
นางสาวชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ตุลาคม 2558 บีโอไอจะนำเสนอผลการศึกษา “โอกาสการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่: ไนจีเรีย คีร์กิซสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน” ณ ห้องเลอ โลตัส 1 โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด โดยผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ขั้นตอน และระเบียบการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนไทยได้ข้อมูลพื้นฐานทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตลอดจนขั้นตอนการทำธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถ และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ
ทั้งนี้ เบื้องต้นไนจีเรียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจการเกษตร โดยมีผลิตผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าว อ้อย เป็นต้น รวมไปถึงการทำเหมืองแร่ ขณะที่อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยจะมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป โดยพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเข้าไปลงทุนเพาะปลูกหรือการจัดตั้งโรงงานเกษตรและอาหารแปรรูปในไนจีเรีย ได้แก่ บริเวณทางตอนใต้และตอนกลางของประเทศ
สาธารณรัฐคีร์กีซ อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยจะมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรม รวมไปถึงในส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่อาศัยความได้เปรียบจากการที่สาธารณรัฐคีร์กีซมีภูมิประเทศที่หลากหลาย และมีทัศนียภาพสวยงาม ส่งผลให้สามารถดำเนินการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ
สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ พบว่าอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนทำธุรกิจ ได้แก่ อุตสาหกรรมเพาะปลูก อุตสาหกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานในการผลิต เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและภาคบริการบางส่วนที่เกี่ยวข้องของบังกลาเทศเริ่มมีการขยายตัวและมีศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้น
สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน พบว่า ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในอุตสาหกรรมเพาะปลูก อุตสาหกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมประมงและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก โดยพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเข้าไปลงทุน ได้แก่ เมืองการาจี และเมืองละฮอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก
ผู้สนใจเข้ารับฟังการนำเสนอผลการศึกษา “โอกาสการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่ : ไนจีเรีย คีร์กิซสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เบอร์โทร. 0-2553-8111 ต่อ 6227 อีเมล ARANYAPAT@BOI.GO.TH