xs
xsm
sm
md
lg

“ชาร์ป” รุกพลังงานโซลาร์ โหม “แอร์-ทีวี” เซฟพลังงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ชาร์ปไทย” ผุดบริษัทลูก บุกโซลาร์บิสิเนสในไทย หลังพบโอกาสเติบโตสูง รัฐบาลให้การสนับสนุน พร้อมเดินหน้าลุยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง เน้นพัฒนาประหยัดพลังงาน โฟกัสแอร์ และทีวี มั่นใจดันรายได้ปี 58 สู่ 5,200 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 1-2%

นายมาซามิ โออุเอะ กรรมการบริหาร บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนเมษยน ปี 2558 นี้ ชาร์ปไทยได้เปิดบริษัทใหม่ พร้อมเข้าไปถือหุ้น คือ บริษัท ชาร์ป โซล่า โซลูชั่น เอเชีย จำกัด หรือ SSSA เพื่อรุกธุรกิจพลังงานโซลาร์อย่างเต็มรูปแบบ หลังพบว่ารัฐบาลไทยพร้อมผลักดันและให้การสนับสนุนธุรกิจนี้เต็มที่ อีกทั้งยังขยายการทำงานสู่งานด้านเอนจิเนียริ่งและการก่อสร้างด้วย

“หาก SSSA มีกำไรหรือมีรายได้ที่ดีขึ้น ชาร์ปไทยก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าไปถือหุ้นเช่นกัน แต่เมื่อมองในกลุ่มชาร์ปกรุ๊ปในไทยแล้ว หลังจากนี้จะเน้นพัฒนากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าที่เน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงานเป็นหลัก โดยยังมองว่ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ ถือเป็น 2 กลุ่มสินค้าที่จะโฟกัสทำตลาดมากสุด เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”

ในส่วนของกลุ่มโทรทัศน์ จากที่มั่นใจว่าในปี 2559 จะมีสปอร์ตอีเวนต์ 2 รายการใหญ่ คือ โอลิมปิก และฟุตบอลยูโร จะช่วยให้ดีมานด์ในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านเครื่อง จากปีนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านเครื่อง โตจากราคาที่ลดลง การเปลี่ยนไปสู่ขนาดจอภาพที่ใหญ่ ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 2.2-2.3 ล้านเครื่อง

ล่าสุดบริษัทเปิดตัว อควอสแอนดรอยด์ทีวีซีรีส์ ในช่วงไตรมาสสี่เพื่อรับปี 2559 พร้อมสร้างจุดขายให้ตัวสินค้ามีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้จะช่วยให้ชาร์ปมียอดขายทีวีรวมอยู่ที่ 2 แสนเครื่องใกล้เคียงกับปีก่อน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกพบว่า กลุ่มทีวีระดับกลางตกลงจากปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของชาร์ป แต่ทีวีระดับบนและล่างยังเติบโตอยู่ การเปิดตัวอควอสแอนดรอยด์ทีวีซีรีส์ครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยดันยอดขายกลับมาใกล้เท่ากับปีก่อนได้

นายมาซามิกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปีนี้ มองว่าเมื่อจบปีงบประมาณ 2558 (เม.ย. 58-มี.ค. 59) บริษัทจะมีรายได้รวมราว 5,200 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 1-2% มาจากยอดขายจากกลุ่มเครื่องปรับอากาศตกลง 10-20% ซึ่งรายได้หลักแบ่งสัดส่วนได้เป็น 1. โทรทัศน์ 30% 2. HA 50% 3. ก๊อบปี้แมชชีน 10% และ 4. โซลาร์บิสิเนส ไลติ้ง และธุรกิจ B2B อีก 10%

ปัจจุบันในไทยชาร์ปมีฐานโรงงานผลิตอยู่ 2 แห่ง คือ 1. ฉะเชิงเทรา ผลิตสินค้ากลุ่มเอชเอ และส่งออกในภูมิภาคอาเซียน 2. นครปฐม ผลิตก๊อบปี้แมชชีนและจำหน่ายในอาเซียน ส่วนกลุ่มสินค้าจอภาพจะนำเข้าจากฐานผลิตในประเทศมาเลเซีย



กำลังโหลดความคิดเห็น