ASTV ผู้จัดการรายวัน - ธุรกิจอาหารยังมั่นใจศักยภาพไทยระยะยาว ไม่หวั่นเหตุระเบิดแต่ยอมรับลูกค้าลดลงไปบ้างในช่วงแรกโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน ตอนนี้เริ่มปกติแล้ว “ซีอาร์จี” ชี้ ครม.ชุดใหม่ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับมา คาดปีนี้อาจโตต่ำเป้า ด้าน “เอฟโวลูชั่น” ชี้ไตรมาสสี่น่าจะดีขึ้น
นายฐากฤต สนิทประชากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ผู้บริหารร้านอาหารหลายแบรนด์ เช่น โอโตยะ, เคเอฟซี, เทนยะ โยชิโนยะ, ชาบูตง, เปปเปอร์ลั้นช์, มิสเตอร์โดนัท เป็นต้น กล่าวว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมายอดขายจากร้านอาหารในกลุ่มของ “ซีอาร์จี” โดยรวมลดลงไปบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้ากลางเมือง เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน เป็นต้น เพราะผู้บริโภคหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่ท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจากจีนก็หายไปมากเหมือนกัน สังเกตจากสาขาใหญ่ที่กลางเมืองของเราเองทั้งเซ็นทรัลเวิด์ และที่สยามพารากอน แต่ขณะนี้ก็เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว โดยเตรียมที่จะจัดแคมเปญกิจกรรมมากขึ้น รวมทั้งแคมเปญใหม่ที่เตรียมไว้แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเพื่อดึงดูดลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักตอนนี้คือทำอย่างไรที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากที่สุดและกลับคืนมาเร็วที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงของการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สิ่งสำคัญกว่าคือ ครม.ชุดใหม่จะมีวิธีการอย่างไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าน่าจะดีขั้น แต่ก็หวังว่าไตรมาสที่สี่จะกลับมากระเตื้องขึ้นบ้างเนื่องจากรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้น มีการกระตุ้นด้วยโครงการต่างๆ
ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้รวมและอัตราการเติบโตของ “ซีอาร์จี” อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยไปบ้าง โดยจากเดิมเมื่อต้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15% จากรายได้ปีที่แล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าปีนี้คงจะทำเติบโตได้ประมาณ 5% หรือมีรายได้ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้คงต้องดูไตรมาสสุดท้ายด้วยว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรอีกหรือไม่
นายซานเจย์ ซิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารรายใหญ่ เช่น โดมิโนพิซซ่า, คอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ, ไก่ทอดเคียวโชน, มิสเตอร์โจนส์ เป็นต้น กล่าวให้ความเห็นว่า แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงระเบิดในพื้นที่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ในภาพรวมและระยะยาวแล้วบริษัทยังเชื่อมั่นถึงศักยภาพของประเทศไทย และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถบริหารและแก้ไขปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม การจะฟื้นเรื่องภาวะเศรษฐกิจให้กลับมาดีนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐเป็นหลัก แต่บริษัทฯ มั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ เนื่องจากว่าภาครัฐเริ่มนำงบประมาณออกมาใช้มากขึ้น เศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับการลงทุนของบริษัทฯ ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้กลุ่มอาหารประมาณ 900 ล้านบาท
นายฐากฤต สนิทประชากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ผู้บริหารร้านอาหารหลายแบรนด์ เช่น โอโตยะ, เคเอฟซี, เทนยะ โยชิโนยะ, ชาบูตง, เปปเปอร์ลั้นช์, มิสเตอร์โดนัท เป็นต้น กล่าวว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมายอดขายจากร้านอาหารในกลุ่มของ “ซีอาร์จี” โดยรวมลดลงไปบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้ากลางเมือง เช่น เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน เป็นต้น เพราะผู้บริโภคหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่ท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจากจีนก็หายไปมากเหมือนกัน สังเกตจากสาขาใหญ่ที่กลางเมืองของเราเองทั้งเซ็นทรัลเวิด์ และที่สยามพารากอน แต่ขณะนี้ก็เริ่มกลับมาดีขึ้นแล้ว โดยเตรียมที่จะจัดแคมเปญกิจกรรมมากขึ้น รวมทั้งแคมเปญใหม่ที่เตรียมไว้แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะเพื่อดึงดูดลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักตอนนี้คือทำอย่างไรที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้มากที่สุดและกลับคืนมาเร็วที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในช่วงของการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สิ่งสำคัญกว่าคือ ครม.ชุดใหม่จะมีวิธีการอย่างไรในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าน่าจะดีขั้น แต่ก็หวังว่าไตรมาสที่สี่จะกลับมากระเตื้องขึ้นบ้างเนื่องจากรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้น มีการกระตุ้นด้วยโครงการต่างๆ
ในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้รวมและอัตราการเติบโตของ “ซีอาร์จี” อาจจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยไปบ้าง โดยจากเดิมเมื่อต้นปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 15% จากรายได้ปีที่แล้วประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าปีนี้คงจะทำเติบโตได้ประมาณ 5% หรือมีรายได้ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้คงต้องดูไตรมาสสุดท้ายด้วยว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรอีกหรือไม่
นายซานเจย์ ซิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟโวลูชั่น แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจอาหารรายใหญ่ เช่น โดมิโนพิซซ่า, คอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ, ไก่ทอดเคียวโชน, มิสเตอร์โจนส์ เป็นต้น กล่าวให้ความเห็นว่า แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงระเบิดในพื้นที่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ในภาพรวมและระยะยาวแล้วบริษัทยังเชื่อมั่นถึงศักยภาพของประเทศไทย และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถบริหารและแก้ไขปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม การจะฟื้นเรื่องภาวะเศรษฐกิจให้กลับมาดีนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐเป็นหลัก แต่บริษัทฯ มั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ เนื่องจากว่าภาครัฐเริ่มนำงบประมาณออกมาใช้มากขึ้น เศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น
สำหรับการลงทุนของบริษัทฯ ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้กลุ่มอาหารประมาณ 900 ล้านบาท