xs
xsm
sm
md
lg

“ราชประสงค์”จากสี่แยกเทพเจ้า สี่แยกอาถรรพ์ สู่ “สี่แยกแห่งความเศร้า”/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

ภาพบรรยากาศย่านราชประสงค์ยามค่ำคืน(ภาพจากแฟ้มภาพ)
ในช่วงเวลาที่คนไทยกำลังอยู่ในความปีติสุข

พลัน!!! ก็เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น กับการระเบิดที่ราชประสงค์ในช่วงหัวค่ำ(เวลาประมาณ 19.00 น.)ของคืนวันที่ 17 ส.ค. 58

เป็นการระเบิดใจกลางกรุงครั้งที่รุนแรงมากและสร้างความเสียหายเป็นอย่างยิ่ง มีผู้เสียชีวิตนับสิบคน และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

การระเบิดครั้งนี้นอกจากจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ทำลายความเชื่อมั่น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวได้รับผลประทบไปเต็มๆ เพราะนี่คือย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นย่านที่มีชาวต่างชาติอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานสงกรานต์และงานเคาต์ดาวน์ปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ของบ้านเราที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งนับแสนคน
บรรยากาศหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ยามค่ำคืน(ภาพจากแฟ้มภาพ)
โดยย่านราชประสงค์หรือบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เป็นสี่แยกสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นจุดตัดของถนนเพลินจิตและถนนราชดำริ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในย่านเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญ

ทั้งนี้สี่แยกราชประสงค์ได้รับฉายาการเรียกขานที่หลากหลาย ได้แก่

-“สี่แยกมหาเศรษฐี”เพราะเป็นที่อยู่ เป็นที่ตั้งแหล่งธุรกิจ ของเศรษฐีตระกูลดังๆในบ้านเราหลายต่อหลายคน บริเวณย่านราชประสงค์มีศูนย์การค้าชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้างเซ็นทรัลเวิลด์,อัมรินทร์พลาซ่า,บิ๊กซีสาขาราชดำริ, สยามพารากอน,สยามดิสคัฟเวอร์รี่,เกษรพลาซ่า เป็นต้น

-“สี่แยกการเมือง” เป็นฉายาที่ได้ขึ้นในยุคหลัง หลังจากที่ นปช.เริ่มใช้เป็นที่ชุมนุมทางการเมืองในปี พ.ศ. 2553 ก่อนจบด้วยการสลายการชุมชนและเผาทำลายสถานที่บางส่วนในบริเวณนั้น โดยเฉพาะห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จากนั้นก็ต่อด้วยการชุมนุมของกปปส. ในปี 2557 ที่มีผู้ไม่หวังดีใช้ระเบิดเอ็ม 79 ลอบยิงจนทำให้เด็กน้อยที่ไม่รู้อิโหน่อีเหน่ ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ศาลท้าวมหาพรหม 1 ใน เทพเจ้าสำคัญแห่งย่านราชประสงค์ที่มีคนมาสักการะกันไม่ได้ขาด(ภาพจากแฟ้มภาพ)
-“สี่แยกพระพรหม” เพราะเป็นที่ตั้งของ “ศาลท้าวมหาพรหม” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล ศาลตั้งอยู่บริเวณสี่แยก ใกล้กับโรงแรมเอราวัณ สร้างตามความเชื่อทางศาสนาฮินดูว่าพระพรหมเป็นผู้สร้าง เป็นหนึ่งใน 3 เทพสูงสุด ทรงเปี่ยมไปด้วยเมตตา หากผู้ใดต้องการมากราบไหว้และมีจิตใจศรัทธาก็จะพบแต่ความสมหวัง ซึ่งแต่ละวันต่างก็มีคนมาสักการะท้ามมหาพรหมมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ (และก็เป็นจุดที่เกิดระเบิดขึ้นใกล้ๆบริเวณนี้)

นอกจากนี้สี่แยกราชประสงค์ยังได้ชื่อว่าเป็น “สี่แยกเทพเจ้า” เพราะเป็นที่ตั้งของศาลเทพเจ้าในศาสนาฮินดูสำคัญๆ รวมแล้วมากถึง 9 ศาลด้วยกัน

แต่ละศาลนั้นก็มีผู้มากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะคนไทยแต่รวมถึงชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน และในการมาสักการะขอพรนั้น แต่ละศาลก็จะมีการขอพรที่แตกต่างกันออกไป โดยนอกจากศาลท้าวมหาพรหมแล้ว ในย่านราชประสงค์ยังมีศาลเทพเจ้าฮินดูอื่นๆ ได้แก่

บริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์และอิเซตัน เป็นที่ตั้งของ “ศาลพระตรีมูรติ” และ “ศาลพระพิฆเนศวร” พระพิฆเนศวรเป็นมหาเทพที่ผู้คนนับถือในฐานะเทพแห่งศิลปวิทยาการ ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง อีกพระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากลที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในทั่วโลก
ท้าวมหาพรหม 1 ใน เทพเจ้าสำคัญแห่งย่านราชประสงค์(ภาพจากแฟ้มภาพ)
ส่วน “พระตรีมูรติ” หรือ “เทพทัตตาเตรยะ” เป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์ เป็นการรวมกันของมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ถึง 3 พระองค์เข้าด้วยกัน ซึ่งก็คือ พระพรหม พระวิษณุ และ พระศิวะ บูชาย่อมบังเกิดความเป็นสิริมงคล และความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต มักมีผู้คนมาขอพรท่านเรื่องความรักเสมอๆ

มี "ศาลพระนารายณ์ทรงครุฑ" อยู่บริเวณหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล "ศาลพระลักษมี" อยู่บริเวณดาดฟ้าชั้นสี่ห้างเกสรพลาซ่า "ศาลท้าวอัมรินทราธิราชเจ้า" หรือพระอินทร์ อยู่บริเวณศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า

"ศาลพระแม่อุมาเทวี" อยู่บริเวณด้านหน้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ และ "ศาลพระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช" ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ท้าวอัมรินทราธิราช
ส่วนอีกฉายาหนึ่งของสี่แยกราชประสงค์ที่ใครหลายๆคนไม่ค่อยรู้ก็คือ ย่านนี้มีฉายาว่า “สี่แยกอาถรรพ์” ที่มีการอ้างอิงมาจากข้อมูลความเชื่อส่วนบุคคลหลากหลายที่มา

สำหรับที่มาของสี่แยกอาถรรพ์นั้น มีข้อมูลระบุว่า หมอดูดูฮวงจุ้ยชื่อดังได้บอกว่าบริเวณสี่แยกราชประสงค์เป็นย่านที่มี ฮวงจุ้ย “ใบพัด”เหมือนกับที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อมีคนเป็นจำนวนมาก ใบพัดก็จะหมุน ซึ่งบริเวณนั้นมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่มากมาย ทำให้แต่ละองค์ต่างแสดงพลังอำนาจออกมา

อีกทั้งในอดีต มีเรื่องเล่าว่าตอนสร้างเมืองกรุงเทพฯ ตอนลงเสาหลักเมืองได้มีการนำคนจริงๆเป็นๆลงไปไว้ในก้นหลุม ครั้นพอลงเสาจะกลบหลุมก็มีงู 4 ตัวเลื้อยลงไป และถูกฝังไปพร้อมกับคน เป็นดังเครื่องบอกลางอาถรรพ์ของกรุงเทพฯ ว่า เมื่อครบรอบต้องบูชายันต์

ที่สี่แยกราชประสงค์ยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลตำรวจซึ่งมีคนตายทุกวัน โดยตังแต่ตั้งโรงพยาบาลมามีคนตายเป็นจำนวนมากนับหลายพันหลายหมื่น อีกทั้งยังมีการเรียกขานกันว่าเป็นที่ “ประตูผี” ซึ่งถือเป็นสี่แยกอาถรรพ์มาช้านาน
พระพิฆเนศวร
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่าที่สี่แยกราชประสงค์เคยเป็นพระราชวังที่ประทับของ ร.4 สมัยก่อนมีการประหารนักโทษกันที่นี่ด้วย บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยความเฮี้ยนและมีการสาปแช่งมากมาย

ขณะที่อีกหนึ่งข้อมูลที่สอดรับกับสี่แยกอาถรรพ์ก็คือ คำบอกเล่าของ อาจารย์วิศิษฐ์ เตชะเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยชื่อดังของไทย ที่เคยเปิดเผยผ่านสื่อไทยรัฐออนไลน์ ถึงความอาถรรพ์ของบริเวณสี่แยกราชประสงค์ สรุปความได้ว่า

สี่แยกราชประสงค์เป็นที่ดินที่มีการการสาปแช่ง ห้ามผู้ใดเข้ามาใช้สถานที่นี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะถึงตาย ซึ่งพื้นที่บริเวณนั้นเคยเป็นทางแยกและเป็นคลองตรงจุดทางแยก ที่ส่วนใหญ่จะมีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่จำนวนมาก

ในอดีตสมัยแรกๆที่ตั้งโรงแรมเอราวัณก็ประสบปัญหามากมาย แต่หลังจากมีการสร้างศาลท้าวมหาพรหมขึ้นมา ทุกอย่างก็ดีขึ้น เจริญรุ่งเรือง
ภาพที่ชาวเน็ตช่วยกันแชร์เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้อาจารย์วิศิษฐ์ยังให้ข้อมูลผ่านสื่อสำนักเดิมอีกว่า หรืออย่างที่ตั้งของโรงพยาบาลตำรวจเมื่อก่อนยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็มักจะมีเหตุการณ์ตาย จนกระทั่งมีการตั้งพระนารายณ์ เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้

หรืออย่างสมัยก่อนตรงหัวมุมตรงนั้นก็มีการสร้าง “ห้างไทยไดมารู” ขึ้นแต่ก็ต้องเจ๊งระเนระนาด เนื่องจากว่าตรงห้างไทยไดมารูที่ตรงนั้นเดิมเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นพระราชวังที่ประทับของ ร.4 ซึ่งตรงจุดนั้นก็มี การประทับพระตรีมูรติ โดยสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และก็มีการสืบทอด มาอันเชิญมาตั้งอยู่ในวังเพชรบูรณ์ตรง ถ.ราชดำริ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นถือเป็นที่เฮี้ยนและก็มีการสาปแช่งไว้มากมาย...

อย่างไรก็ดีเกี่ยวกับฉายาสี่แยกอาถรรพ์ของสี่แยกราชประสงค์นั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งก็มีทั้งคนที่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อ และเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่จากเหตุการณ์ระเบิดในค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้สี่แยกราชประสงค์เปลี่ยนเป็น “สี่แยกแห่งความเศร้า” ที่สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับใครต่อหลายคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสำหรับผู้ที่ทำแล้วจิตใจช่างชั่วร้ายอำมหิตนัก

ไม่สมควรที่จะเรียกว่าเป็นการกระทำของคนแต่อย่างใด!!!
*****************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น