xs
xsm
sm
md
lg

GPSC เดินหน้าตั้งโรงไฟฟ้าขยะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โกลบอล เพาเวอร์ฯ จ่อลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ 9 เมกะวัตต์ที่จังหวัดระยอง อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตต่างๆ และเตรียมรายละเอียดงานก่อสร้าง หวังใช้เป็นโมเดลลงทุนโรงไฟฟ้าขยะที่อื่นๆ ส่วนโรงไฟฟ้าไบโอแมส มองลงทุนที่ภาคใต้ ขนาด 6-10 เมกะวัตต์

นายโกวิท จึงเสถียรทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายแผนงานองค์กร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้าในกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล (ไบโอแมส) โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า โดยมองโอกาสที่จะทลายปาล์มมาใช้เป็นวัตถุดิบในภาคใต้ รวมทั้งเตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 9เมกะวัตต์ ที่จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าขยะ 9 เมกะวัตต์ที่จังหวัดระยองกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการด้านใบอนุญาตต่างๆ ให้ถูกต้อง ครบถ้วน และการเตรียมรายละเอียดงานก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 900-1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโมเดลโรงไฟฟ้าต้นแบบสำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะชุมชนในพื้นที่อื่นๆ

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมสที่ใช้ของเสียและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรนั้น จำเป็นต้องร่วมกับพันธมิตรจากภาคการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงและต่อเนื่องในด้านแหล่งวัตถุดิบ ขนาดโรงไฟฟ้าที่เหมาะสมอยู่ที่ 6-10 เมกะวัตต์ เพราะหากสร้างขนาดใหญ่กว่านี้จะต้องพึ่งพาการขนส่งวัตถุดิบจากพื้นที่ที่ห่างไกลออกไป ต้นทุนการขนส่งจะไม่คุ้ม

“ประเทศไทยเป็นสังคมเกษตร จึงสามารถหาวัสดุเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรมได้อย่างต่อเนื่องและหลากหลาย จึงน่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่มีโอกาสที่ดี พึ่งพาได้ และมั่นคงกว่าลมหรือแสงอาทิตย์ ทั้งนี้ กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมหรือแสงอาทิตย์จำเป็นจะต้องมีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าปกติมาสำรองการผลิตอีกจำนวนหนึ่ง ในช่วงที่ไม่มีลมและแสงแดดเพียงพอสำหรับการผลิต รวมทั้งบริษัทยังสนใจโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์จากขยะมูลฝอยและของเสีย” นายโกวิทกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1.87 พันเมกะวัตต์ และไอน้ำ 1.51 พันตัน/ชั่วโมง และน้ำเย็น 1.2 หมื่นตันความเย็น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 600-1,000 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปีนี้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ

โครงสร้างการถือหุ้น GPSC ประกอบด้วย บมจ.ปตท. 22.6% บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 22.7% บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 8.9% บจ.ไทยออยล์ พาวเวอร์ (TP) 20.8% และนักลงทุนทั่วไป 25%
กำลังโหลดความคิดเห็น