กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมออกแพกเกจปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเสนอ ครม.ภายใน ก.ย.นี้หลังเตรียมกู้เงินเพิ่มอีก 1.3 หมื่นล้านบาท ทำใจราคาอ้อยขั้นต้นปี 58/59 ตกต่ำและแนวโน้มส่อยาวถึงปี 59/60
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการจัดทำแผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนกันยายนนี้เนื่องจากเป็นเงื่อนไขเดิมจากครม.ว่าหากจะมีการกู้เงินเพื่อดูแลเสถียรภาพราคาอ้อยเพิ่มเติมจะต้องส่งแผนปรับโครงสร้างไปพร้อมกันด้วย
“ล่าสุดนี้จะต้องมีการกู้เงินมาดูแลราคาอ้อยเพิ่มเติมอีก 1.3 หมื่นล้านบาทเนื่องจากราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2557/58 ต่ำกว่าขั้นต้นประมาณกว่า 50 บาทต่อตัน ซึ่งกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะต้องกู้มาจ่ายคืนโรงงานตามกฎหมาย ดังนั้น หากเราจะกู้ก็ต้องเสนอแพกเกจการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมฯเข้าไป” รมว.พลังงานกล่าว
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายที่จะเสนอนั้นคงไม่ได้มองแค่เรื่องการปรับราคาน้ำตาลทรายแต่อย่างใด แต่เป็นการมองทั้งระบบ โดยแนวทางใดที่ดีอยู่แแล้วจะไม่แก้ไข ขณะเดียวกันบราซิลเองก็เตรียมที่จะร้องไทยกรณีที่ไทยมีการอุดหนุนราคาอ้อยทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมโดยการขึ้นราคาน้ำตาลทรายขายปลีก 5 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไปดูแลระบบจึงเป็นโอกาสที่ดีในการแก้ไขโครงสร้างปัญหาของอุตสาหกรรมนี้ทั้งระบบ
นายจักรมณฑ์กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกมีแนวโน้มลดต่ำลงต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ลดต่ำทั้งน้ำมัน น้ำตาล ข้าว ตามทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งหากมองจากทิศทางราคาน้ำมันที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำไปอีกในปี 2559 ก็มีแนวโน้มว่าราคาน้ำตาลทรายจะยังทรงตัวในระดับต่ำต่ออีกยกเว้นจะมีผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง เป็นตัวฉุดรั้ง
