![“เขมทัตต์ พลเดช” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด [แฟ้มภาพ]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000009177601.JPEG)
ASTVผู้จัดการรายวัน - จวก “กสทช.” ไม่ช่วยส่งเสริมทีวีดิจิตอล หวังเงินทุน 400 ล้านบาทจาก “กสทช.” ร่วมจัดตั้งวัดเรตติ้งทีวีดิจิตอลมูลค่า 1.5 พันล้านบาท ชี้ครึ่งปีหลังลุ้นงบประมาณแผ่นดินกระตุ้นเศรษฐกิจ ทีวีดิจิตอลอัดคอนเทนต์หวังเพิ่มเรตติ้งและรายได้ “PPTV” คิกออฟ “บุนเดสลีกา” หวังกอดคอบอลให้อยู่หมัดครบ 102 แมตช์ตลอดฤดูกาล
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ PPTV เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังนี้ทางสถานีฯ จะมีคอนเทนต์กีฬาฟุตบอลดัง 2 รายการ คือ อังกฤษพรีเมียร์ลีก ซึ่งขณะนี้ขายสปอนเซอร์ได้ครบแล้ว ส่วนรายการที่ 2 คือ การถ่ายทอดสดฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2015-2016 โดยการจับมือกับ บริษัท ฟ็อกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชนแนล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บุนเดสลีกาในเอเชีย 6 ปี ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป
“ความร่วมมือกับ ฟ็อกซ์ ครั้งนี้ทำสัญญา 2 ปี คือ ฤดูกาล 2015/2016 และ 2016/2017 ซึ่งค่าลิขสิทธิ์ถูกกว่าพรีเมียร์ลีกที่ได้มาถึง 50% และจะเริ่มเจรจาหาสปอนเซอร์หลังจากนี้เป็นต้นไป โดยมองว่าจะเป็นคอนเทนต์กีฬาที่รองรับสปอนเซอร์ที่ไม่สามารถสนับสนุนพรีเมียร์ลีกได้ เนื่องจากขณะนี้ได้สปอนเซอร์พรีเมียร์ลีกครบตามโควตาแล้ว ขณะที่ราคาแพกเกจสปอนเซอร์ของบุนเดสลีกาจะถูกกว่าพรีเมียร์ราว 50% เช่นกัน”
สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลบุนเดสลีกาครั้งนี้ถือเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟฟรีทีวี รวม 102 แมตช์ตลอดฤดูกาล ซึ่งบางช่วงจะมีการแข่งขันคาบเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีก เนื่องจากปีนี้เป็นต้นไปบุนเดสลีกาพร้อมแข่งขันกับพรีเมียร์ลีกโดยตรง ช่วงเวลาการแข่งขันอยู่ในช่วงเดียวกัน ดังนั้นบางวันอาจจะต้องเลือกคู่แข่งขันที่ดีที่สุดผ่านทางช่อง PPTV HD จึงต้องมีการนำเสนอผ่านช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในลักษณะฟรีทูแอร์ และช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.pptvthailand.com และแอปพลิเคชัน PPTV Beyond รวม 102 แมตช์
นายเขมทัตต์กล่าวต่อว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังจะมีการเจรจาเพิ่มคอนเทนต์กีฬาอีก 2-3 รายการ ทั้งฟุตบอล มวย และวอลเลย์บอล และมีการเปิดตัวละครเรื่องใหม่ช่วงเดือน ต.ค.นี้อีก 1 เรื่อง โดยในแง่เรตโฆษณาของ PPTV จะมีการปรับขึ้นอัตโนมัติตามเรตติ้งรายการที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ภาพรวมทีวีดิจิตอลในครึ่งปีหลังมองว่าจะแข่งขันรุนแรง หลายๆ ช่องเริ่มนำเสนอคอนเทนต์กีฬามากขึ้นทั้งที่จุดขายเป็นช่องบันเทิง ทำให้ราคาประมูลคอนเทนต์กีฬาสูงขึ้นตามกลไกตลาด แต่ในแง่ของเม็ดเงินโฆษณาในทีวีดิจิตอลครึ่งปีหลังมีเพียงแค่บางช่องที่สามารถปรับราคาได้ จากการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและมีเรตติ้ง แต่ในภาพรวมโดยเฉพาะในไตรมาสสี่มองว่าปัจจัยสำคัญคือ งบประมาณแผ่นดิน หากยังไม่อนุมัติออกมาจะทำให้ความเชื่อมั่นลดลง เศรษฐกิจไม่เดินหน้า รากหญ้ามีปัญหา สินค้าบางกลุ่มได้รับผลกระทบ ส่งผลต่องบโฆษณาที่อาจจะทรงตัว
*** ติง กสทช.ไม่ส่งเสริมทีวีดิจิตอล ***
นายเขมทัตต์กล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าล่าสุดในการที่สมาคมมีเดียเอเจนซี่แห่งประเทศไทยได้ทำการคัดเลือกบริษัทวิจัยเรตติ้งทีวีดิจิตอลขึ้นมาและยังไม่พร้อมประกาศรายชื่อผู้ที่ประมูลได้ไปนั้น มองว่าการจัดทำการวิจัยเรตติ้งทีวีดิจิตอลครั้งนี้ถือเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ไม่กำกับดูแลและไม่ส่งเสริมอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลให้เกิดขึ้น ทั้งที่มีกองทุนพัฒนาสื่ออยู่แล้ว
ขณะที่การคัดเลือกบริษัทวิจัยมาดูเรตติ้งทีวีดิจิตอลครั้งนี้ หวังให้ กสทช.ร่วมลงทุนด้วยงบ 400 ล้านบาท จากทั้งหมด 1.5 พันล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี ส่วนที่เหลือมาจากสถานีโทรทัศน์ที่ร่วมมือกันอีก 20 กว่าช่อง หรือตกช่องละ 50-60 ล้านบาท แต่หาก กสทช.ไม่ร่วมมือ แต่ละช่องจะต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ขณะที่หลายๆ ความคิดเห็นมองว่าการจัดตั้งวัดเรตติ้งครั้งนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ ส่วนสำคัญที่สุดอยู่ที่ กสทช.เท่านั้น
