xs
xsm
sm
md
lg

CTH ขาดทุน EPL บักโกรก ปรับแพจเกจดูดเงินกลุ่มพรีเมียม ชี้เพย์ทีวีแข่งดุหืดขึ้นคอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน)
ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีทีเอช” ฮึดสู้โค้งสุดท้าย ปรับแพกเกจ ELP ขึ้น 200 บาท รับฐานกลุ่มกลางถึงบน เปิดประตูรับสปอนเซอร์รายย่อยอีก 10 ราย ผนึกพันธมิตรร่วมถ่ายสดอีก 10 ราย หวังดันรายได้สู่ 6 พันล้านบาท พร้อมฐานสมาชิก 3 ล้านคน เข้าถึง EPL 55% ย้ำลุยประมูล EPL ต่อ เปิดกว้างทุกโมเดล มั่นใจเพย์ทีวียังเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน

นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในการขายลิขสิทธิ์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกปีนี้จะเน้น 4 กลยุทธ์หลัก คือ 1.ปรับราคาแพกเกจการรับชมพรีเมียร์ลีกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 200 บาท จากทั้งหมด 6 แพกเกจหลักในการรับชมของแพลทฟอร์มกล่องซีทีเอชและกล่อง Z payTV เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน จากเดิมที่ผ่านมาเน้นกลุ่มกลางถึงล่าง ถึงแม้จะได้ฐานผู้ชมเข้ามามาก แต่รายได้ยังต่ำ การเจาะกลุ่มกลางถึงบน จะเห็นรายได้ที่ดีกว่า

2.สปอนเซอร์จะเน้นขายสปอนเซอร์รายย่อยมากขึ้น ขณะนี้มีกว่า 10 รายแล้ว เฉลี่ยราคาแพกเกจจะอยู่ที่ 15-20 ล้านบาท ส่วนแพกเกจใหญ่ยังคงไว้ที่ 4 ราย แพกเกจละ 100 ล้านบาท ได้แก่ AIS, สิงห์, โตโยต้า และฮอนด้า ซึ่งขณะนี้สามารถขายสปอนเซอร์ได้แล้วไม่ต่ำกว่า 757 กว่าล้านบาท จากเป้า 1 พันล้านบาท 3.การจับมือกับพันธมิตรร่วมถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก 10 ราย ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โมบาย, ไอพีทีวี กับเอไอเอส,PPTV, PSI และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกส่วนหนึ่ง และ 4.การขายคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกให้กับโรงแรมกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และเคเบิลท้องถิ่นอีก 20 รายทั่วประเทศ รวมถึงการปรับราคาคอนเทนต์ในกลุ่มร้านอาหารอีก จากเดิม 1.2 หมื่นบาท เป็น 1.8 หมื่นบาทต่อฤดูกาล

ทั้งนี้ หลังจบฤดูกาลแข่งขันพรีเมียร์ลีกในเดือนพ.ค.59 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีรายได้ 6 พันล้านบาท โดยกว่า 4 พัน ล้านบาทมาจากพรีเมียร์ลีก และมีฐานสมาชิกเป็น 3 ล้านคนโดยกว่า 55% สามารถเข้าถึงและรับชมพรีเมียร์ลีกได้ จากปีก่อนมีฐานสมาชิก 1.3 ล้านคน และปิดรายได้ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท ทั้งนี้มองว่าในช่วงระหว่างการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจะมีสมาชิกใหม่กว่า 3 แสนราย เท่าปีก่อนที่เพิ่มเข้ามา

“ปีนี้ ซีทีเอช จะต้องทำรายได้จากพรีเมียร์ลีกให้ได้ 4 พันล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมต้นทุนอื่นๆ แล้ว เชื่อว่าสามารถทำได้ แต่หากรวมต้นทุนอื่นๆ แล้วยังถือว่าขาดทุนอยู่ ประมาณ 6 พันล้านบาท จากเม็ดเงินประมูลที่ซื้อมากว่า 1-1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้ 3 ปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างระหว่างทางและสร้างฐานสมาชิกอย่างต่อ เนื่อง โดยมองว่าธุรกิจเพย์ทีวียังเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสแต่ต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมบรอดคาสติ้งในไทยมีผู้เล่นเพิ่มขึ้น หรือแบ่งได้ 3 กลุ่มหลักคือ เพย์ทีวี เคเบิลทีวี/ทีวีดาวเทียม และดิจิตอลทีวี ขณะที่ภาครัฐให้การสนับสนุนดิจิตอลทีวี ส่วนเคเบิลทีวี/ทีวีดาวเทียมดูฟรี แต่เพย์ทีวีต้องจ่ายค่าบริการ ดังนั้นเพย์ทีวีจึงเป็นแพลทฟอร์มที่ต้องออกแรงแข่งขันมากที่สุด”

นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า “ซีทีเอช” ยังพร้อมที่จะลงทุนกับธุรกิจเพย์ทีวีอย่างต่อเนื่อง โดยหัวใจสำคัญของธุรกิจเพย์ทีวีที่จะแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมบรอดคาสติ้งคือ คอนเทนต์ ดังนั้นบริษัทฯ จึงพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน ซึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะเข้าร่วมประมูลในโมเดลใด โดยมีความเป็นไปได้หลายรูปแบบทั้งแบบไปเดี่ยว และไปพร้อมกับการจับมือกับพันธมิตรทั้งระดับในประเทศ และระดับรีจีนอล

ทั้งนี้ หากไม่ชนะการประมูล “ซีทีเอช” ยังมีแผนสำรองรองรับธุรกิจเพย์ทีวีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์คอนเท้นต์เอ็นเตอร์เทนท์เม้นท์อย่างต่อเนื่อง หรือจับฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ จากเดิมที่เป็นกลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นต้น



กำลังโหลดความคิดเห็น