ASTVผู้จัดการรายวัน – “ซีทีเอช”ไม่เข็ด ลั่นประมูลEPLอีก พร้อมปรับแผนอาจควงพันธมิตรไม่ฉายเดี่ยวอีกแล้ว ด้าน”ทรูวิชั่นส์”พร้อมรบศึกครั้งนี้อีก แต่ย้ำราคาต้องไม่โอเว่อร์เหมือนคราวที่แล้ว ซีทีเอชพร้อมลุ้นขายลิขสิทธ์EPLปีนี้ สู่ 1,000 ล้านบาทก่อนเปิดฤดูกาล58 ล่าสุดได้PPTV ร่วมถ่ายสดทางฟรีทีวี 26 แมทช์ ไม่หวั่นปั้นรายได้สู่ 6,000 ล้านบาทในสิ้นปี ด้านPPTV เชื่อ EPL ดันติดท็อปบไนน์
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประมูลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในครั้งต่อไปกับ 3 ฤดูกาลหน้า คือ ในปี 2559/2560-2561/2562 ทางซีทีเอชพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลแน่นอน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในการศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ว่าจะไปร่วมประมูลในลักษณะใด อาจจะมีพาร์ทเนอร์หรือไปรายเดียว จากปัจจุบันที่มีพันธมิตรพร้อมร่วมมืออยู่หลายราย
ทั้งนี้มองว่าในสถานการณ์การแข่งขัน มีทั้งคู่แข่งทั้งในระดับประเทศซึ่งมีอยู่ 2-3 ราย และระดับรีจีนอลอีก 2-3 รายเช่นกัน ส่วนราคาการประมูลครั้งนี้ยังตอบได้ยากว่าจะมีราคาสูงแค่ไหน เนื่องจากคอนเทนต์กีฬากำลังเป็นที่ต้องการ และเอเชียเป็นตลาดใหม่ที่กลุ่มกีฬาพรีเมี่ยมกำลังให้ความสนใจและต้องการเปิดตลาด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางทรูวิชั่นส์ ถือเป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกปากชัดเจนในความพร้อมเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในครั้งหน้านี้ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ถือลิขสิทธิ์มายาวนานก่อนที่จะพลาดท่าเสียทีให้กับทางซีทีเอชไปเมื่อครั้งที่แล้ว
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทรูวิชั่นส์มีความพร้อมในการเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษ พรีเมียร์ลีก ครั้งใหม่นี้แน่นอน แต่ต้องอยู่ในระดับราคาที่สู้ได้ ซึ่งการแข่งขันในการประมูลครั้งนี้ อาจจะไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อนที่มีผู้สนใจในไทยร่วมประมูลหลายราย ทำให้ราคาในการประมูลในครั้งล่าสุดนั้นสูงจากปกติ 4 เท่าตัว เมื่อเทียบจากเดิมที่ทรูวิชั่นส์เคยได้ไป
แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดอาเซียนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้นในระดับรีจีนอลแล้ว อาเซียน จึงเป็นตลาดที่สำคัญและมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด อาจจะมีคู่แข่งในกลุ่มบรอดคาสติ้งรายอื่นๆเข้ามาร่วมประมูลในลักษณะรีจีนอลด้วย ดังนั้นการแข่งขันในการประมูลครั้งนี้จึงสำคัญไม่ต่างจากครั้งก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประมูลรอบใหม่นี้ยังไม่เริ่มต้น คาดว่าปลายปีนี้คงจะเริ่มทำการประมูลกัน
นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า แผนการขายต่อลิขสิทธิ์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีก ประจำปี 2556/2557-2558/2559 ที่บริษัทฯได้มาด้วยการประมูลในราคาสูงเกือบ 10,000 ล้านบาทนั้น ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาบริหารการขายลิขสิทธ์ทำได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นจากที่ตั้งเป้า หมายไว้ ขณะที่รายได้รวมปีที่ผ่านมา ซีทีเอชทำได้ 3,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปีนี้ตั้งไว้ที่ 6,000 ล้านบาท
โดยแผนการขายลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2558/2559 ปีนี้จะเน้นขายสปอนเซอร์แพกเกจเล็กมากขึ้น ในราคาแพกเกจละ 20 ล้านบาท ส่วนสปอนเซอร์หลักมีอยู่ 4 ราย คือ AIS, สิงห์, โตโยต้า และฮอนด้า ในแพกเกจราคา 100 ล้านบาท ทั้งนี้มีเป้าหมายรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ทำได้กว่า 70-80% แล้ว ล่าสุดยังได้ทางพีพีทีวี ร่วมถ่ายทอดสดในช่องทางฟรีทีวีอีก 26 แมทช์ ซึ่งซื้อลิขสิทธิ์ไปในราคาประมาณ 200 ล้านบาทด้วย ซึ่งแผนต่อไปซีทีเอชกับพีพีทีวียังจะเป็นพันธมิตรในระยะยาวต่อไป
***PPTVหวังใช้EPL สร้างชื่อ
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิตอลช่องพีพีทีวี กล่าวว่า ความร่วมมือในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 26 แมทช์ จากทั้งหมด 360 แมทช์ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ช่องPPTV เป็นที่รู้จักทั้งจากเอเจนซี่และผู้ชมทั่วประเทศมากขึ้น โดยทางสถานีฯ คาดหวังว่าจะช่วยผลักดันให้สิ้นปีนี้ช่อง PPTV จะติดอยู่ในอันดับ 1-9 ของทีวีรวม พร้อมมีรายได้ 400 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้
“การซื้อลิขสิทธิ์ร่วมถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก 26 แมทช์ มาจากงบรวม 1,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในปีนี้ โดยทางสถานีฯสามารถหารายได้จากคอนเทนต์ดังกล่าวระหว่างฤดูกาลการแข่งขันได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีสปอนเซอร์ทั้งหมด 8 ราย คือ วาสลีน เมน, เคลียร์ เมน, การ์นิเย่ เมน, ไทยนครพัฒนา, โตโยต้า อัลติส, แว็กซี่, มิซูบิชิ ออลนิว ปาเจโร่ และเอไอเอส แบ่งเป็นเมนสปอนเซอร์ 5 ราย ราคาแพกเกจละ 20 ล้านบาท และสปอนเซอร์รองอีก 3 ราย แพกเกจละ 10-15 ล้านบาท” นายเขมทัตต์ กล่าว
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประมูลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในครั้งต่อไปกับ 3 ฤดูกาลหน้า คือ ในปี 2559/2560-2561/2562 ทางซีทีเอชพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลแน่นอน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในการศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ว่าจะไปร่วมประมูลในลักษณะใด อาจจะมีพาร์ทเนอร์หรือไปรายเดียว จากปัจจุบันที่มีพันธมิตรพร้อมร่วมมืออยู่หลายราย
ทั้งนี้มองว่าในสถานการณ์การแข่งขัน มีทั้งคู่แข่งทั้งในระดับประเทศซึ่งมีอยู่ 2-3 ราย และระดับรีจีนอลอีก 2-3 รายเช่นกัน ส่วนราคาการประมูลครั้งนี้ยังตอบได้ยากว่าจะมีราคาสูงแค่ไหน เนื่องจากคอนเทนต์กีฬากำลังเป็นที่ต้องการ และเอเชียเป็นตลาดใหม่ที่กลุ่มกีฬาพรีเมี่ยมกำลังให้ความสนใจและต้องการเปิดตลาด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางทรูวิชั่นส์ ถือเป็นอีกค่ายหนึ่งที่ออกปากชัดเจนในความพร้อมเข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในครั้งหน้านี้ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ถือลิขสิทธิ์มายาวนานก่อนที่จะพลาดท่าเสียทีให้กับทางซีทีเอชไปเมื่อครั้งที่แล้ว
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทรูวิชั่นส์มีความพร้อมในการเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษ พรีเมียร์ลีก ครั้งใหม่นี้แน่นอน แต่ต้องอยู่ในระดับราคาที่สู้ได้ ซึ่งการแข่งขันในการประมูลครั้งนี้ อาจจะไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อนที่มีผู้สนใจในไทยร่วมประมูลหลายราย ทำให้ราคาในการประมูลในครั้งล่าสุดนั้นสูงจากปกติ 4 เท่าตัว เมื่อเทียบจากเดิมที่ทรูวิชั่นส์เคยได้ไป
แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดอาเซียนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้นในระดับรีจีนอลแล้ว อาเซียน จึงเป็นตลาดที่สำคัญและมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด อาจจะมีคู่แข่งในกลุ่มบรอดคาสติ้งรายอื่นๆเข้ามาร่วมประมูลในลักษณะรีจีนอลด้วย ดังนั้นการแข่งขันในการประมูลครั้งนี้จึงสำคัญไม่ต่างจากครั้งก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประมูลรอบใหม่นี้ยังไม่เริ่มต้น คาดว่าปลายปีนี้คงจะเริ่มทำการประมูลกัน
นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อว่า แผนการขายต่อลิขสิทธิ์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีก ประจำปี 2556/2557-2558/2559 ที่บริษัทฯได้มาด้วยการประมูลในราคาสูงเกือบ 10,000 ล้านบาทนั้น ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาบริหารการขายลิขสิทธ์ทำได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นจากที่ตั้งเป้า หมายไว้ ขณะที่รายได้รวมปีที่ผ่านมา ซีทีเอชทำได้ 3,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปีนี้ตั้งไว้ที่ 6,000 ล้านบาท
โดยแผนการขายลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2558/2559 ปีนี้จะเน้นขายสปอนเซอร์แพกเกจเล็กมากขึ้น ในราคาแพกเกจละ 20 ล้านบาท ส่วนสปอนเซอร์หลักมีอยู่ 4 ราย คือ AIS, สิงห์, โตโยต้า และฮอนด้า ในแพกเกจราคา 100 ล้านบาท ทั้งนี้มีเป้าหมายรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ทำได้กว่า 70-80% แล้ว ล่าสุดยังได้ทางพีพีทีวี ร่วมถ่ายทอดสดในช่องทางฟรีทีวีอีก 26 แมทช์ ซึ่งซื้อลิขสิทธิ์ไปในราคาประมาณ 200 ล้านบาทด้วย ซึ่งแผนต่อไปซีทีเอชกับพีพีทีวียังจะเป็นพันธมิตรในระยะยาวต่อไป
***PPTVหวังใช้EPL สร้างชื่อ
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิตอลช่องพีพีทีวี กล่าวว่า ความร่วมมือในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 26 แมทช์ จากทั้งหมด 360 แมทช์ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ช่องPPTV เป็นที่รู้จักทั้งจากเอเจนซี่และผู้ชมทั่วประเทศมากขึ้น โดยทางสถานีฯ คาดหวังว่าจะช่วยผลักดันให้สิ้นปีนี้ช่อง PPTV จะติดอยู่ในอันดับ 1-9 ของทีวีรวม พร้อมมีรายได้ 400 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้
“การซื้อลิขสิทธิ์ร่วมถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก 26 แมทช์ มาจากงบรวม 1,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในปีนี้ โดยทางสถานีฯสามารถหารายได้จากคอนเทนต์ดังกล่าวระหว่างฤดูกาลการแข่งขันได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีสปอนเซอร์ทั้งหมด 8 ราย คือ วาสลีน เมน, เคลียร์ เมน, การ์นิเย่ เมน, ไทยนครพัฒนา, โตโยต้า อัลติส, แว็กซี่, มิซูบิชิ ออลนิว ปาเจโร่ และเอไอเอส แบ่งเป็นเมนสปอนเซอร์ 5 ราย ราคาแพกเกจละ 20 ล้านบาท และสปอนเซอร์รองอีก 3 ราย แพกเกจละ 10-15 ล้านบาท” นายเขมทัตต์ กล่าว
