ทรูวิชั่นส์จัดเต็ม ลุ้นบิดพรีเมียร์ลีกและลาลีกา ตอกย้ำ “คิงส์ออฟสปอร์ต” ชี้ครึ่งปีแรกฝืด ยอดสมาชิกทำได้ 2.6 ล้านราย ล่าสุดจัดเต็ม 1,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ลวงเพื่อปรับลดราคาแพกเกจ จัดโปรโมชัน “ติดจุดเดียวคุ้ม แยกติดหลายจุดคุ้มกว่า” ตรึงสมาชิกพรีเมียมและเพิ่มสมาชิกใหม่ ดันสมาชิกรวมสิ้นปี 3 ล้านตามเป้า
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ทรูวิชั่นส์มีความพร้อมในการเข้าไปบิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดลาลีกา และฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกต้องอยู่ในระดับราคาที่สู้ได้ ซึ่งการแข่งขันในการบิดครั้งนี้อาจจะไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อนที่มีผู้สนใจในไทยร่วมบิดหลายราย ทำให้ราคาในการบิดสูงจากปกติ 4 เท่าตัวเมื่อเทียบจากเดิมที่ทรูวิชั่นส์เคยได้ไป แต่ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดอาเซียนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ในระดับรีจีนัลอาเซียนจึงเป็นตลาดที่สำคัญและมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด อาจจะมีคู่แข่งในกลุ่มบรอดคาสติ้งรายอื่นๆ เข้ามาร่วมบิดในลักษณะรีจีนัลด้วย ดังนั้นการแข่งขันในการบิดครั้งนี้จึงสำคัญไม่ต่างจากครั้งก่อน
“หลังจากเสียฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกไป และหันมาให้ความสำคัญต่อไทยพรีเมียร์ลีกแทน พบว่าการตอบรับจากสมาชิกเกี่ยวกับกีฬาไทยดีกว่ามาก แต่ทางบริษัทยังพร้อมร่วมประมูลลิขสิทธิ์ฟุตบอลดังจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งลาลีกาและอังกฤษพรีเมียร์ลีก ตอกย้ำความเป็นคิงส์ออฟสปอร์ต แต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งครั้งนี้มีคู่แข่งระดับรีจีนัลหลายรายสนใจร่วมประมูลด้วย ราคาประมูลระดับรีจีนัลจะสูงมาก หากได้ไปและนำมาเสนอที่ทรูวิชั่นส์ให้ร่วมถ่ายทอดสดก็พร้อมที่จะพิจารณา แต่หากสูงเกินไปก็จะไม่รับ หรืออาจจะพิจารณาเลือกเป็นบางแมตช์มาถ่ายทอดสดแทน”
นายพีรธนกล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจเพย์ทีวีช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะงักทำให้ภาพรวมสมาชิกของทรูวิชั่นส์ทำได้เพียง 2.6 ล้านราย ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยเฉพาะสมาชิกระดับแมสมีอัตราการหายหรือยกเลิกบริการไป 2.5-2.6% ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังซื้อรากหญ้าลดลง ยอดขายในเซเว่นอีเลฟเว่นและค้าปลีกตกลง ส่วนลูกค้าระดับพรีเมียมยังดีอยู่ หรือปัจจุบันมีฐานสมาชิกอยู่ที่ 12% ของสมาชิกทั้งหมด คิดเป็นจำนวนสมาชิกได้ 312,000 คน เฉลี่ยยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องราว 1% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ครึ่งปีหลังนี้บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทสำหรับจัดโปรโมชัน “ติดจุดเดียวคุ้ม แยกติดหลายจุดคุ้มกว่า” เริ่มตั้งแต่วันนี้-31 ก.ค.นี้ สำหรับลูกค้าระดับพรีเมียมที่รับชมใน 2 แพกเกจ คือ แพลทินัมแพกเกจ และโกลด์แพกเกจ เป็นหลัก ในการได้รับสิทธิ์เพิ่มจุดติดตั้งฟรีทุกจุด พร้อมจ่ายจุดเสริมในราคาเพียง 159 บาท โดยแพลทินัมแพกเกจได้รับชมรวม 4 จุด โกลด์แพกเกจได้รับชม 3 จุด เฉลี่ยคิดค่าบริการเพียง 579 บาทต่อจุด จากปกติการเพิ่มจุดติดตั้งจะมีราคาอยู่ที่ 400-730 บาทต่อจุด ถือเป็นโปรโมชันที่มองในภาพรวมแล้วจะทำให้แต่ละแพกเกจ โดยเฉพาะแพลทินัมแพกเกจมีการปรับราคาให้ถูกลงประมาณ 500 กว่าบาท เมื่อคิดในอัตรา 4 จุด จุดละ 730 บาท ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ส่วนสำคัญเพื่อต้องการรักษาฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียมและเพิ่มสมาชิกใหม่ในกลุ่มนี้ขึ้นมาอีก หรือภายในสิ้นปีนี้คาดว่าฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นอีก 5% หรือมีสัดส่วนที่ 17% เมื่อเทียบกับตัวเลขรวมของเป้าหมายสมาชิกทั้งหมดในสิ้นปีนี้ที่ตั้งไว้ 3 ล้านราย
“โปรโมชัน ติดจุดเดียวคุ้ม แยกติดหลายจุดคุ้มกว่า ถือเป็นโปรโมชันที่ลงทุนมากสุดกว่า 1,000 ล้านบาท กับการลงทุนในส่วนของกล่องติดตั้งเพิ่มเติมที่มีราคาเฉลี่ยเพียง 159 บาทเท่านั้น หากได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า พร้อมที่จะเพิ่มระยะเวลาการจัดโปรโมชันไปจนถึงปลายปีนี้ต่อไป” นายพีรธนกล่าวสรุป