ASTVผู้จัดการรายวัน - เทศกาลเข้าพรรษาปีม้าซบหนัก ซัปพลายเออร์ลดกำลังผลิตเทียนพรรษา, สบง, จีวร ฯลฯ ร่วม 50% เหตุกำลังซื้อยังฟื้นไม่เต็มที่ “แสงแห่งศรัทธา” ห้างสรรพสินค้าสังฆภัณฑ์และศาสนพิธีที่ใหญ่ที่สุดในโลกปรับกลยุทธ์งดแผนขยายสาขา เปิดบริการดีลิเวอรี พร้อมทุ่มกำลังเสริมตลาดออนไลน์ ชูจุดเด่นสังฆทานสดใหม่ทุกวัน ด้าน “นันยาง” ชิมลางเปิดตัวสินค้าใหม่ “รองเท้าสำหรับพระสงฆ์” ส่วน “เทสโก้ โลตัส” จัดโปรฯ แรง สังฆภัณฑ์ชุดละ 299 บาท ซื้อ 1 แถม 1!
นายสกล แสงมาลี เจ้าของและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แสงแห่งศรัทธา จำกัด ศูนย์รวมจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ภายใต้ชื่อ “แสงแห่งศรัทธา” ย่าน ซ.จรัญสนิทวงศ์ 13 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ (ฝั่งถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก) เปิดเผยว่า เทศกาลเข้าพรรษาของแต่ละปีถือเป็นช่วงเวลาของธุรกิจจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ที่มีโอกาสทำตลาดและยอดขายได้มากกว่าเทศกาลอื่นๆ บริษัทฯ จึงมีการปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งการส่งสินค้าฟรีแก่ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มียอดสั่งซื้อตั้งแต่ 5 พันบาทขึ้นไป พร้อมกันนั้นยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาการตลาดออนไลน์โดยมุ่งหวังจะเป็นอันดับหนึ่งด้านการจำหน่ายและบริการเครื่องสังฆภัณฑ์ออนไลน์ภายในอนาคตอันใกล้นี้
ในระยะแรกที่บริษัทฯ เปิดดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2549-2543 ถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก แต่หลังจากที่มีปัญหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ต่อเนื่องด้วยปัญหาทางการเมืองจนถึงปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันต้องยอมรับว่าธุรกิจจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ได้รับผลกระทบมาก ทั้งๆ ที่คนไทยมีการทำบุญมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น แต่ด้วยเหตุที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวมากนัก จึงทำให้ผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยด้านการทำบุญน้อยลง ดังจะเห็นได้จากคู่ค้าทางธุรกิจ เช่น โรงงานหล่อเทียนพรรษา โรงงานผลิตผ้าสบง จีวร และอื่นๆ ต่างมีการโละสต๊อกสินค้าเก่า พร้อมลดอัตราการผลิตสินค้าใหม่ถึง 50%
“ผลกระทบที่ธุรกิจจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ได้รับมาจากสาเหตุหลักสำคัญประการเดียวคือกำลังซื้อที่ลดต่ำลง แม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจมีข่าวคราวในแง่ลบเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์อย่างต่อเนื่อง แต่พระพุทธศาสนาในเมืองไทยยังมีความมั่นคงมาก ขณะเดียวกันคนไทยก็ยังศรัทธาในพระพุทธศาสนาเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยเหตุที่การดำเนินธุรกิจด้านนี้ไม่สามารถจะใช้กลยุทธ์การตลาดในลักษณะลดแลกแจกแถมได้เพราะจะกลายเป็นเรื่องเชิงพาณิชย์ เราจึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ใหม่จากเดิมที่มีแผนจะขยายสาขาตามหัวเมืองใหญ่และจังหวัดอื่นๆ โดยหันมาให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพสินค้า การบริการ และเน้นการตลาดออนไลน์มากขึ้น”
นายสกลกล่าวด้วยว่า ธุรกิจจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบมากขึ้น จากร้านค้าห้องแถวธรรมดากลายเป็นจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากขึ้น หรือแม้แต่ของบริษัทฯ ซึ่งเน้นจุดเด่นในเรื่อง “สะดวก สะอาด สบาย สว่าง” มีพื้นที่รวมกว่า 2 ไร่ จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับศาสนพิธีเป็นจำนวนกว่า 50 หมวด รวมกว่า 1 หมื่นรายการ ทั้งยังมีที่จอดรถยนต์อีกกว่า 100 คัน จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางถึงสูงซึ่งเท่ากับเป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าทั่วไป ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพสินค้าและบริการอย่างสูงสุด
ปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้าหมุนเวียนเข้าออกภายในห้างฯ วันละประมาณ 100 คน มีการจับจ่ายใช้สอยเฉลี่ยคนละ 300 บาทขึ้นไป ขณะเดียวกันยังมีลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่ใช้บริการในสัดส่วนใกล้เคียงกับลูกค้าทั่วไปคือ 50:50 โดยส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะบอกต่อกันแบบปากต่อปากถึงคุณภาพของสินค้าและบริการ เนื่องจากบริษัทฯ มีการให้บริการในลักษณะรับจัดงานศาสนพิธีทุกรูปแบบ ทั้งงานทำบุญบริษัท งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญวันเกิด งานทำบุญพิธีมงคลสมรส งานทำบุญพิธีศพ และอื่นๆ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าประมาณ 95% และการจัดงานศาสนพิธี 5%
“บริษัทฯ ถือเป็นห้างสรรพสินค้าสังฆภัณฑ์และศาสนพิธีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสินค้าที่จำหน่ายดีที่สุดคือชุดสังฆทานซึ่งมีหลายระดับราคาตั้งแต่ 299 บาทจนถึง 1 หมื่นบาทขึ้นไป มีจำหน่ายทั้งชุดสำเร็จรูปและจัดตามความต้องการของลูกค้า พร้อมเน้นจุดเด่นเรื่องความสดใหม่ที่แต่ละวันจะมีการจัดใหม่ประมาณ 100 ชุดขึ้นไป โดยให้ความสำคัญในเรื่องของดีมีคุณภาพและถูกต้องตามพระธรรมวินัย เพราะเราต้องการเปลี่ยนทัศนคติของลูกค้าให้ซื้อสินค้าถวายพระที่ดีมีคุณภาพ เหมือนร้านอาหารถ้าอร่อย ต่อให้แพงขนาดไหนก็ยังมีคนอุดหนุน” นายสกลกล่าวในที่สุด
*** “นันยาง” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “รองเท้าสำหรับพระสงฆ์” ***
นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าผ้าใบนักเรียนและรองเท้าแตะฟองน้ำ ตรา “ช้างดาว” เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2558 บริษัทฯ ได้สร้างสีสันให้ตลาดด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการทำบุญถวายชุดสังฆทานแด่พระสงฆ์ คือ “รองเท้าสำหรับพระสงฆ์” รุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน สีเหลืองอ่อน-น้ำตาล เป็นจำนวนจำกัดเพียง 2 หมื่นคู่ จำหน่ายในราคา 99 บาท
ในฐานะที่ “นันยาง” เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรองเท้าผ้าใบสำหรับนักเรียนและรองเท้าแตะฟองน้ำ จึงจำเป็นต้องกระตุ้นตลาดให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเปิดตัว “รองเท้าสำหรับพระสงฆ์” ครั้งนี้ถือเป็นการทดลองทำตลาดครั้งแรกเพื่อสร้างเซกเมนต์ใหม่และรองรับจำนวนพระสงฆ์ทั่วประเทศที่มีประมาณ 2 แสนรูป ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีจากพุทธศาสนิกชนอาจมีการผลิตเพิ่มทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป
“เรามีวัตถุประสงค์ในการผลิตรองเท้าสำหรับพระสงฆ์เพื่อเน้นกลุ่มเป้าหมายพุทธศาสนิกชนผู้สูงอายุที่ต้องการเลือกสินค้าที่ดีมีประโยชน์เพื่อถวายให้พระสงฆ์สามารถนำไปใช้งานได้จริง โดยหลังจากทดลองทำตลาดมาได้ประมาณ 2 เดือนปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์” นายจักรพลกล่าวในที่สุด
*** “เทสโก้ โลตัส-บิ๊กซี” ร่วมจัดแคมเปญบุญ ***
นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท “เทสโก้ โลตัส” กล่าวว่า จากผลวิจัยทางการตลาดที่จัดโดยสถาบันชั้นนำหลายแห่งพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา เช่น ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ไหว้พระ เวียนเทียน และอื่นๆ “เทสโก้ โลตัส” จึงได้จัดเตรียมสินค้ามากมายในราคาถูกสุดๆ พร้อมโปรโมชันพิเศษไว้ให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนาที่จะมาถึงนี้ เช่น ชุดสังฆทาน ราคา 299 บาท ซื้อ 1 แถม 1 ชุดอาหารแห้งสำหรับทำบุญตักบาตรราคาพิเศษเมื่อซื้อ 2-3 ชิ้น พร้อมจำหน่ายเทียนพรรษาในราคาลดสูงสุดถึง 30%
“เทสโก้ โลตัส ยังให้ความสำคัญต่อคุณภาพสินค้าด้วยว่าต้องสด ใหม่ ได้มาตรฐาน เช่น สินค้าในชุดสังฆทาน จะมีรายการสินค้าที่ระบุตรายี่ห้อและวันหมดอายุที่ชัดเจนเพื่อที่ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบได้ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมยังคงเป็นชุดสังฆทาน ไม่ว่าจะเป็นสังฆทานของใช้ สังฆทานยาประจำบ้าน หรือสังฆทานหมอนผ้าห่ม รวมถึงเทียนพรรษา และหลอดไฟ เป็นต้น”
นางสาวสลิลลากล่าวในตอนท้ายด้วยว่า การจัดแคมเปญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาครั้งนี้ “เทสโก้ โลตัส” ไม่ได้มุ่งหวังยอดขายเพิ่มขึ้นมากนัก แต่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างการรับรู้และเชิญชวนให้ประชาชนทำบุญเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเทศกาลเข้าพรรษาโดยกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น จัดโซเชียลมีเดียแคมเปญ โดยออกคลิปวิดีโอไวรัล ชุด “ทำบุญ..คุณหวังอะไร” ซึ่งมียอดชมเกือบ 1.5 แสนครั้ง อีกทั้งยังจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาในสาขาขนาดใหญ่เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญกับวัดใกล้บ้านอีกด้วย โดยกิจกรรมและแคมเปญเหล่านี้จะเริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันจันทร์ที่ 2 ส.ค. ศกนี้
ด้าน นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บิ๊กซี” จัดแคมเปญลูกค้าสมาชิกบิ๊กการ์ดที่ซื้อของทำบุญที่ “บิ๊กซี” ครบ 200 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 23 ก.ค.-3 ส.ค. 58 ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี มาร์เก็ต และบิ๊กซีจัมโบ้ จะได้รับคูปองเพื่อลุ้นไปไหว้พระ 5 วัดมหามงคลที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 50 รางวัล รางวัลละ 2 ที่