ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นเจ็บตัว ยอดขายหดรับเศรษฐกิจแย่ “กลุ่มเอ็มเคเค” สยายปีกธุรกิจฟูดลดเสี่ยง ตั้ง “โกโกฯ” คว้าไลเซนส์ เทดดี้ส์บิ๊กเกอร์เบอร์เกอร์ รุกตลาดพรีเมียมเบอร์เกอร์ในไทย
นางสาววงศ์รัตน์ ออรัตนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกโก เรสเตอร์รอง จำกัด ผู้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ร้าน “เทดดี้ส์ บิ๊กเกอร์ เบอร์เกอร์” ในไทยจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทฯ รับสิทธิ์สัญญานาน 8 ปี “เทดดี้ส์ บิ๊กเกอร์” จะเข้ามารุกตลาดเบอร์เกอร์ในไทยในระดับพรีเมียมเบอร์เกอร์ แตกต่างจากเบอร์เกอร์ฟาสต์ฟูดทั่วไปที่ทำตลาดอยู่ในไทยเวลานี้ โดยจะเป็นบริการแบบฟูลเซอร์วิสเรสเตอรองต์เหมือนกับเบอร์เกอร์ในโรงแรม ภัตตาคาร
แผน 3 ปีจากนี้คือจะมีสาขารวม 10 สาขา งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท โดยปีแรกคือปี 2558 จะเปิด 2 สาขา คือที่ เกตเวย์เอกมัย เดือนกรกฎาคมนี้ พื้นที่ใหญ่สุด 196 ตารางเมตรและเป็นสาขาแฟลกชิปด้วย ส่วนสาขาสองที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า พื้นที่ 54 ตารางเมตร ขณะที่ปีหน้าเปิดอีก 2 สาขา และปี 2560 จะเปิดอีก 6 สาขา ซึ่งมากกว่าในสัญญาแฟรนไชส์ที่ระบุไว้ว่าจะต้องเปิดให้ได้ 4 สาขาภายใน 3 ปี
รูปแบบของร้านจะมี 2 แบบ คือ มาตรฐานทั่วไป เน้นเปิดตามย่านการค้าใหญ่ๆ และรูปแบบป็อปอัพสโตร์ที่เปิดตามงานอีเวนต์ทั่วไป ทั้งนี้ ระดับราคาอยู่ที่ 175-360 บาท วัตดุดิบหลักคือเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่าจะมียอดขาย 2 ล้านบาทต่อเดือนต่อสาขา จุดเด่นคือการทำสดตามออเดอร์ พร้อมกับมีทอปปิ้ง
“ตลาดเบอร์เกอร์ในไทยมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท มีโอกาสเติบโตอีกมาก แม้ว่าทุกวันนี้จะมีผู้เล่นรายใหญ่ที่เป็นเชนไม่กี่ราย และมีผู้เล่นที่เป็นรายเดี่ยว หรือเมนูเบอร์เกอร์เป็นตัวชูโรงที่เรียกว่า ฟูดทรัก หรือ Food Truck แต่จุดเด่นของเราคือ การบริการแบบภัตตาคาร มีซอสให้เลือกมากถึง 6 ชนิด สั่งระดับความสุกได้”
ทั้งนี้ ฐานธุรกิจเดิมของครอบครัวมีหลายธุรกิจหลัก เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น โรงพิมพ์ อสังหาฯ และเซียงกง ซึ่งธุรกิจหลักคือ เสื้อผ้าแฟชั่น ในนามบริษัท เอ็ม เค เค ประเทศไทย จำกัด ทำมานานกว่า 33 ปีแล้ว มี 5 แบรนด์ คือ Mikiko, MathaOrleans, VeroniQa, O R Design และ Orella อยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยดีเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ กำลังซื้อลดลง และรายได้ลดลงมาตลอดตั้งแต่ 400-500 ล้านบาท ในช่วงที่สูงสุด กระทั่งปีที่แล้วมียอดขายเหลือเพียง 180 ล้านบาท หรือตกลงมากกว่า 30% และคาดว่าปีนี้คงตกลงอีก 10% ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาปิดจุดขายไปแล้วรวม 50 กว่าแห่ง ครึ่งปีแรกนี้ปิดจุดขายไปแล้ว 20 แห่ง และคาดว่าครึ่งปีหลังจะปิดอีก 10 แห่ง จากปัจจุบันเหลือ 156 จุดขายตามห้างสรรพสินค้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจเสื้อผ้าคงไม่ได้เติบโตมากนักและโอกาสที่จะกลับคืนสู่รายได้เหมือนในอดีตคงยากเพราะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ก็พยายามแก้ไขมาตลอด มีการจัดกิจกรรมลดราคาตลอด หาสินค้าที่สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กันมากขึ้นมาจำหน่ายจับกลุ่มระดับบน รวมทั้งจะขยายตลาดไปเออีซีด้วย ที่เจรจาอยู่ก็เช่นที่พม่า ส่วนที่มาเลเซียก็เคยเจรจาแต่ยังไม่สรุป ซึ่งการขยายสู่ธุรกิจอาหารก็เหมือนกับเป็นการกระจายความเสี่ยงเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจไม่ดีแฟชั่นจะได้รับผลกระทบมาก แต่อาหารก็ยังอยู่ได้
นาย Ted Tsakiris ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เทดดี้ส์ บิ๊กเกอร์ เบอร์เกอร์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับนาย Richard Stula ก่อตั้ง “เทดดี้ส์ บิ๊กเกอร์ เบอร์เกอร์” ที่รัฐฮาวาย อเมริกา ตั้งมา 17 ปีแล้ว มีสาขาที่อเมริกา 17 สาขา และจะเปิดอีก 1 สาขาที่เทกซัสเดือนหน้า ส่วนต่างประเทศเริ่มขายไลเซนส์แล้ว เช่น ญี่ปุ่น มี 1 สาขา จะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขาภายใน 5 ปี, ที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ มี 2 สาขา ซึ่งแผน 5 ปีจะมี 9 สาขา และเตรียมเปิดที่ซาอุดีอาระเบีย และดูไบในปีหน้า