ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ จ่อร่วมทุนกลุ่ม CGN ผุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจีนเพื่อหาประสบการณ์และเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด โดยจะถือหุ้นส่วนน้อยเพียง 10-20% พร้องทั้งดึง CGN เข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวลทางภาคใต้ของไทย กำลังผลิต 9 เมกะวัตต์
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (มหาชน) (RATCH) เตรียมลงนามสัญญาร่วมทุนกับกลุ่ม China General Nuclear Power Corporation (CGN) ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจไฟฟ้าของจีน เพื่อตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 2 พันเมกะวัตต์ทางตอนใต้ของจีน โดยราชบุรีฯ จะถือหุ้นส่วนน้อยเพียง 10-20% ของทุนจดทะเบียน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น 325 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
การตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครั้งนี้เพื่อต้องการหาประสบการณ์ และเรียนรู้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เนื่องจากกลุ่ม CGN เป็นบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปร่วมทุน เพื่อเรียนรู้ในฐานะที่ราชบุรีฯ เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเช่นกัน ขณะที่ทางกลุ่ม CGN ก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนธุรกิจไฟฟ้าในอาเซียน
ทั้งนี้ กลุ่ม CGN สนใจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย ซึ่งราชบุรีฯ ก็มีแผนตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้เศษไม้เป็นเชื้อเพลิงทางภาคใต้ ขนาดกำลังการผลิต 9 เมกะวัตต์ โดยราชบุรีฯ จะเจรจาดึงกลุ่ม CGN เข้ามาร่วมถือหุ้นด้วยประมาณ 20% ของทุนจดทะเบียน นอกจากนี้ยังมีโครงการพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนด้วย
ที่ผ่านมาบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ ขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยในช่วง 5 ปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน หลังจากโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในไทยเกิดขึ้นยาก โดยมีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลมที่ออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ สปป.ลาว รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรเดิมทั้ง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เตรียมประมูลสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อินโดนีเซีย
นอกจากนี้ยังจับมือกับกลุ่มเชาว์สตีลทำโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น ซึ่งจะขยายความร่วมมือดังกล่าวไปในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ รวมทั้งมีแผนจะรุกธุรกิจไฟฟ้าในพม่า และเวียดนามด้วยเช่นกัน โดยจะร่วมมือกับ ปตท.ในการแสวงหาโอกาสการลงทุนในอนาคต โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้นี้จะช่วยทดแทนโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้จะทยอยครบหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าลงใน 5 ปีข้างหน้า คิดเป็นกำลังผลิตไฟ 700 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าราชบุรีฯ ที่จะหมดอายุสัญญาใน 10 ปีข้างหน้า คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 1.4 พันเมกะวัตต์ที่จะหายไปในอนาคต
