กฟผ.แย้มข่าวดีหลังราคาน้ำมันโลกดิ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ค่าไฟทรงตัวระดับต่ำถึงกลางปี 2559 แต่ทั้งนี้ต้องดูปัจจัยลบอื่นๆ ทั้งค่าบาท น้ำในเขื่อน เกาะติด 2 เขื่อนหลักหลังฝนมา “สิริกิติ์” สัญญาณดีน้ำเริ่มไหลเข้า แต่ “ภูมิพล” ยังน่าห่วง
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกที่อ่อนค่าต่อเนื่องจะสะท้อนมายังราคาก๊าซธรรมชาติที่อิงกับราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือนให้ลดตามลงนั้นจะมีส่วนสำคัญต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าให้ปรับลดตาม ดังนั้น ภาพรวมค่าไฟฟ้าจะมีการทรงตัวในระดับต่ำเช่นปัจจุบันไปจนถึงกลางปี 2559 อย่างไรก็ตาม ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวด ก.ย.-ธ.ค. 58 คงจะต้องพิจารณาตัวเลขต่างๆ ใหม่เพราะมีหลายปัจจัยที่เปลี่ยนไปจากการคำนวณไว้เดิม
“จากวิกฤตกรีซและเศรษฐกิจจีนชะลอตัวทำให้ระดับราคาน้ำมันมีทิศทางอ่อนตัวก็จะมีปัจจัยบวกนี้เข้ามา และอีกส่วนคือการซ่อมท่อก๊าซที่พม่าเร็วกว่าแผนทำให้ลดการใช้น้ำมันเตาลงมา แต่ก็มีปัจจัยลบที่จะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นคือค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างมาก และอีกส่วนคือการผลิตไฟฟ้าจากน้ำที่ปีนี้ลดลงจากที่เคยประเมินไว้” นายสุนชัยกล่าว
สำหรับวิกฤตภัยแล้งขณะนี้เริ่มมีฝนตกลงมาส่งผลให้น้ำไหลเข้าเขื่อนแล้ว โดยเฉพาะ ภาคตะวันตกในเขื่อนวชิราลงกรณ์และเขื่อนศรีนครินทร์มีน้ำไหลเข้าวันละ 30-40 ล้านลูกบาศ์เมตร ส่วนนี้จะไม่มีปัญหาอะไร แต่เขื่อนใหญ่ ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพลเริ่มมีปริมาณฝนตกและไหลเข้าเขื่อนบ้างแล้ว โดยเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลเข้า 7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่ระบายน้ำออกจากเขื่อน 17 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่เขื่อนภูมิพลน้ำไหลเข้าไม่ถึง 1 ล้าน ลบ.ม.ต่อวันจากการระบายออก 6-7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ดังนั้นก็ยังต้องระวังอย่างใกล้ชิดสำหรับเขื่อนภูมิพล
“เขื่อนสิริกิติ์เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นแต่ภูมิพลยังน่าห่วงเพราะน้ำยังไหลเข้าน้อยกว่า แต่ทั้ง 2 เขื่อนเองก็ยังมีน้ำเหลือไม่มากนัก โดยเขื่อนสิริกิติ์เหลือน้ำใช้ 500 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนภูมิพลเหลือน้ำใช้ 200 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นกรมชลประทานก็จะดูแลการปล่อยน้ำโดยจะต้องเน้นการรักษาระดับน้ำเพื่อดูแลระบบนิเวศ การอุปโภคและบริโภค จนกว่าปริมาณน้ำจะมา ซึ่งปกติทุกปีจะเริ่มมีน้ำมากในเดือน ส.ค. 58 เราก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”