กบง.เคาะรีดเงินแอลพีจีเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มอีก 12 สตางค์ต่อ กก. หลังแอลพีจีโลกลดลงส่งผลให้ราคาแอลพีจีขายปลีกเดือน ก.ค.คงเดิมที่ 23.96 บาทต่อ กก.
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาต้นทุนก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือน ก.ค. 58 เพื่อกำหนดราคาขายปลีกเพื่อให้สะท้อนกลไกตลาดโลก พบว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกได้ปรับลดลงจากเดือน มิ.ย.ที่อยู่ระดับ419 เหรียญสหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ 407 เหรียญต่อตันในเดือน ก.ค. หรือคิดเป็นประมาณ 0.1205 บาทต่อ กก. ที่ประชุมจึงมีมติให้นำเงินดังกล่าวส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ก.ค. คงเดิมที่ 23.96 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)
“การลดราคาขายปลีกให้ประชาชนอาจจะไม่มีผลอะไรมากนักเพราะน้อยมาก ดังนั้นจึงให้นำเข้ากองทุนฯ เพื่อที่จะเก็บสะสมไว้ใช้ดูแลระดับราคาช่วงขาขึ้น” นายณรงค์ชัยกล่าว
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนที่แยกเป็นบัญชีแอลพีจีมีเงินสะสมอยู่ 7,395 ล้านบาทโดยกองทุนฯ เก็บเงินจากแอลพีจีอยู่ที่ 0.952 บาทต่อ กก. เมื่อมีการเก็บเงินเพิ่มทำให้เงินส่งเข้ากองทุนฯ เป็น 1.0725 บาทต่อ กก. ส่งผลให้กองทุนฯ จะมีรายรับเพิ่มอีก 314 ล้านบาทต่อเดือน