ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง.วันนี้ (8 มิ.ย.) ซึ่งมี ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนมิถุนายน 2558 ตามแนวโน้มสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก (CP) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคา ณ โรงกลั่นซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซ LPG โดยใช้ต้นทุนเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจากแหล่งผลิตและแหล่งจัดหา (โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และการนำเข้า) ปรับลดลง 0.32 บาทต่อกิโลกรัม แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงราคาไม่มาก ซึ่งหากปรับลดก็อาจไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG ที่อาจเพิ่มขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมฯ จึงเห็นควรนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG เพื่อสำรองไว้ใช้บริหารราคาขายปลีกก๊าซ LPG ในอนาคต เมื่อต้นทุนในการจัดหาก๊าซ LPG เพิ่มมากขึ้น โดยให้คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนมิถุนายน 2558 คงเดิมเท่ากับเดือนพฤษภาคม ที่ 23.96 บาทต่อกิโลกรัม และปรับเพิ่มอัตราเงินเก็บเข้ากองทุนของก๊าซ LPG ขึ้น 0.32 บาทต่อกิโลกรัม จาก 0.63 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 0.95 บาทต่อกิโลกรัม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายรับ เพิ่มขึ้นจาก 112 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 330 ล้านบาทต่อเดือน จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ที่ผ่านมา ทำให้มีการผลิตก๊าซ LPG ในประเทศสูงขึ้น และมีการนำเข้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมปริมาณนำเข้าเฉลี่ยปี 2557 อยู่ที่ 182 พันตันต่อเดือน ในเดือนธันวาคม 2557 ลดลงเหลือเพียง 90 พันตันต่อเดือน ในเดือนมิถุนายน 2558
ทั้งนี้ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีรายรับ เพิ่มขึ้นจาก 112 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 330 ล้านบาทต่อเดือน จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG ที่ผ่านมา ทำให้มีการผลิตก๊าซ LPG ในประเทศสูงขึ้น และมีการนำเข้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมปริมาณนำเข้าเฉลี่ยปี 2557 อยู่ที่ 182 พันตันต่อเดือน ในเดือนธันวาคม 2557 ลดลงเหลือเพียง 90 พันตันต่อเดือน ในเดือนมิถุนายน 2558