ประชาชนเกือบ 7,000 คนในมณฑลอัลแบร์ตาของแคนาดาต้องอพยพออกจากพื้นที่ซึ่งไฟป่ากำลังลุกไหม้ คุกคามที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจ รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งของภูมิภาคดังกล่าว เมื่อวานนี้
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พนักงานดับเพลิงกว่า 1,600 คน กำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เกิดขึ้น 70 จุด ซึ่ง 55 จุดในจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นจากฟ้าผ่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการท้องถิ่นประกาศห้ามการตั้งแคมป์ ส่วนรัฐบาลแคนาดากำลังพิจารณาว่าจะขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และเม็กซิโก ขณะที่ไฟป่าที่เกิดขึ้น 20 จุดไม่สามารถควบคุมได้
นายโอนีล คาร์ลิเยร์ รัฐมนตรีป่าไม้มณฑลอัลแบร์ตา กล่าวว่า ไฟปาาได้ลุกลามเข้าใกล้รัศ มี 20 กิโลเมตร ของบ้านเรือนและโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง คนงาน 2,000 คน ได้อพยพออกจากโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคโคลด์เลค ขณะที่ไฟป่าซึ่งครอบคบลุมพื้นที่ 10,000 เฮกตาร์ กำลังส่งผลกระทบต่อทางหลวงเพียงสายเดียวของพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนอีก 4,700 คน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านวาบัสคาได้รับคำสั่งให้อพยพ และอีก 67 คน ได้หนีออกจากพื้นที่แห่งหนึ่งใกล้กับทะเลสาบเสลฟ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พนักงานดับเพลิงกว่า 1,600 คน กำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เกิดขึ้น 70 จุด ซึ่ง 55 จุดในจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นจากฟ้าผ่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางการท้องถิ่นประกาศห้ามการตั้งแคมป์ ส่วนรัฐบาลแคนาดากำลังพิจารณาว่าจะขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และเม็กซิโก ขณะที่ไฟป่าที่เกิดขึ้น 20 จุดไม่สามารถควบคุมได้
นายโอนีล คาร์ลิเยร์ รัฐมนตรีป่าไม้มณฑลอัลแบร์ตา กล่าวว่า ไฟปาาได้ลุกลามเข้าใกล้รัศ มี 20 กิโลเมตร ของบ้านเรือนและโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง คนงาน 2,000 คน ได้อพยพออกจากโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคโคลด์เลค ขณะที่ไฟป่าซึ่งครอบคบลุมพื้นที่ 10,000 เฮกตาร์ กำลังส่งผลกระทบต่อทางหลวงเพียงสายเดียวของพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนอีก 4,700 คน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านวาบัสคาได้รับคำสั่งให้อพยพ และอีก 67 คน ได้หนีออกจากพื้นที่แห่งหนึ่งใกล้กับทะเลสาบเสลฟ