นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุม กบง. พิจารณาปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี สำหรับเดือนเมษายน โดยสถานการณ์ราคาในตลาดโลกเดือนเมษายน อยู่ที่ประมาณ 464 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ปรับลดลงจากเดือนก่อน 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลงเล็กน้อย ส่งผลให้ราคาโรงกลั่นที่เป็นราคาซื้อตั้งต้นของก๊าซแอลพีจี ใช้ต้นทุนเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักจากแหล่งผลิต และแหล่งจัดหาปรับลดงบประมาณ 37 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากเดิม 16.58 บาท ต่อกิโลกรัม เป็น 16.21 บาทต่อกิโลกรัม
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีในประเทศปรับลดลง 0.20 บาทต่อกิโลกรัม จาก 24.16 บาท เป็น 23.96 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ กบง.จะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น 19 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการกันไว้เพื่อเป็นทุนสำรองรักษาระดับราคาก๊าซแอลพีจี เมื่อตลาดโลกเกิดความผันผวน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีในประเทศปรับลดลง 0.20 บาทต่อกิโลกรัม จาก 24.16 บาท เป็น 23.96 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ กบง.จะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น 19 สตางค์ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการกันไว้เพื่อเป็นทุนสำรองรักษาระดับราคาก๊าซแอลพีจี เมื่อตลาดโลกเกิดความผันผวน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้