นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ในทุกภาคส่วน มีผลในวันนี้ (31 ม.ค.)
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกเอ็นจีวีภาคครัวเรือน ขนส่ง และอุตสาหกรรม อยู่ที่ 13 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนภาคขนส่งสาธารณะราคาอยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีกเพื่อให้สะท้อนต้นทุนจริงที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม โดยยังไม่มีการพิจารณาว่าจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเอ็นจีวีหรือไม่
ส่วนราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีทุกภาคส่วนยังคงเหมือนเดิม อยู่ที่ 24.16 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื่อเพลงสำหรับดีเซล ยังคงไว้ที่ 1 บาทต่อลิตร และเมื่อมีความพร้อมจะโอนเงินกองทุนไปเป็นภาษีสรรพสามิตแทน ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปว่า จะเป็นเมื่อใด ขณะที่ราคาขายปลีกดีเซลก็ยังคงเดิมที่ 25.09 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกเอ็นจีวีภาคครัวเรือน ขนส่ง และอุตสาหกรรม อยู่ที่ 13 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนภาคขนส่งสาธารณะราคาอยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีกเพื่อให้สะท้อนต้นทุนจริงที่ 15-16 บาทต่อกิโลกรัม โดยยังไม่มีการพิจารณาว่าจะจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเอ็นจีวีหรือไม่
ส่วนราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีทุกภาคส่วนยังคงเหมือนเดิม อยู่ที่ 24.16 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื่อเพลงสำหรับดีเซล ยังคงไว้ที่ 1 บาทต่อลิตร และเมื่อมีความพร้อมจะโอนเงินกองทุนไปเป็นภาษีสรรพสามิตแทน ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปว่า จะเป็นเมื่อใด ขณะที่ราคาขายปลีกดีเซลก็ยังคงเดิมที่ 25.09 บาทต่อลิตร