วันนี้ (30ก.ย.) นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยมีวาระสำคัญพิจารณาการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่ง และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) คาดว่าจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยในส่วนของก๊าซแอลพีจี จะทยอยปรับขึ้นราคา 62 สตางค์ต่อกิโลกรัม ในครั้งแรก เพื่อไปสู่เป้าหมายให้มีราคาเท่ากับราคาแอลพีจีครัวเรือน หรือจากปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม ไปเป็น 22.63 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาเอ็นจีวี คาดว่าอาจปรับขึ้นสูงถึง 1 บาทต่อกิโลกรัม จากขณะนี้มีราคาอยู่ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยเหตุผลหลักต้องการให้มีราคาที่สะท้อนต้นทุนจริงมากขึ้น
ส่วนการปรับอัตราเพิ่มเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล ซึ่งขณะนี้มีค่าการตลาดน้ำมันอยู่ที่ 1.92 บาทต่อลิตร โดยอาจจะปรับเงินนำส่งเข้าดีเซลเพิ่ม 40-50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อสะสมเป็นรายได้เข้ากองทุนน้ำมันฯที่ยังมีสถานะติดลบอยู่ 4,736 ล้านบาท
ส่วนการปรับอัตราเพิ่มเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล ซึ่งขณะนี้มีค่าการตลาดน้ำมันอยู่ที่ 1.92 บาทต่อลิตร โดยอาจจะปรับเงินนำส่งเข้าดีเซลเพิ่ม 40-50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อสะสมเป็นรายได้เข้ากองทุนน้ำมันฯที่ยังมีสถานะติดลบอยู่ 4,736 ล้านบาท