LINE@ คือ LINE สำหรับองค์กรธุรกิจ หรือบุคคลประเภทดาราหรือเซเลบที่มีผู้ติดตามหรือแฟนคลับจำนวนมาก เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับนำมาใช้ด้านการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และงานลูกค้าสัมพันธ์ เอาไว้สื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแนะนำองค์กร การประชาสัมพันธ์กิจกรรมขององค์กร แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำโปรโมชัน ใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กรกับผู้ติดตาม รวมไปถึงการสำรวจความคิดเห็นเพื่อหาฟีดแบ็กด้วย
8 ฟีเจอร์เด็ด สำหรับธุรกิจขั้นเทพ
LINE@ มีฟีเจอร์เด่น ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กรธุรกิจอยู่ 8 อย่าง ได้แก่
1. Push Message ส่งข้อความหรือรูปภาพถึงลูกค้าทั้งหมดได้ในคลิกเดียว และสามารถตั้งเวลาส่งล่วงหน้าได้
2. Timeline โพสต์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมระหว่างวันบนไทม์ไลน์ และสามารถตั้งค่าให้โพสต์และส่งข้อความ Push Message ไปพร้อมกันได้
3. 1:1 Chatช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแบบตัวต่อตัว เอาไว้สำหรับลูกค้าที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีปัญหาข้อสงสัยสอบถามมาที่เรา ซึ่งเราสามารถตอบกลับได้ทันที ฟีเจอร์นี้ยังเปิดโอกาสให้เราตั้งระบบตอบกลับอัตโนมัติได้ ในเวลาที่เราไม่สะดวก เช่น กำลังขับรถหรือทำธุระส่วนตัว
4. Account (Home) Page โฮมเพจบน LINE@ สำหรับแนะนำองค์กรว่า เป็นใคร ทำธุรกิจอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน จะติดต่อกันได้อย่างไร โทรศัพท์ อีเมล เว็บไซต์ ฯลฯ
5. โปรโมชันและคูปอง เราสามารถทำโปรโมชันและสร้าง eCoupon ขึ้นใช้ได้เอง ส่งถึงลูกค้าได้โดยตรง และสามารถกำหนดระยะเวลาโปรโมชันหรืออายุหรือจำนวนการใช้งานของคูปองได้
6. โพลและแบบสอบถาม เราสามารถสร้างโพลหรือแบบสอบถามส่งถึงลูกค้า เพื่อรับทราบความคิดเห็น ฟีดแบ็ก รวมถึงสามารถเก็บข้อมูล เช่น เพศ และอายุของกลุ่มลูกค้าหรือผู้ติดตามได้
7. Rich Message ใช้ภาพสื่อความหมายแทนคำพูด เป็นความสามารถในการส่งรูปภาพขนาดใหญ่เท่าหน้าต่าง Chat ถึงกลุ่มลูกค้า ที่สำคัญเราสามารถใส่ลิงก์ไว้ในรูปภาพนั้นได้สูงสุดถึง 6 ลิงก์ อย่างไรก็ตาม Rich Message เป็นฟีเจอร์ที่ต้องเสียสตางค์ก่อนถึงจะใช้ได้ โดยต้องดำเนินการ 2 ขั้นตอน
a.สมัคร LINE Pay ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://line.me/th/pay และ http://at-blog.line.me/th/guide-linepay
b.ซื้อแพ็คเกจรายเดือน ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://at-blog.line.me/th/guide-monthlyplan
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rich Message ที่ http://at-blog.line.me/th/guide-richmessage
8. สถิติ สามารถเก็บสถิติจำนวนลูกค้า จำนวนบล็อก สถิติบน Timeline ฯลฯ และสามารถดาวน์โหลดสถิติมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อได้
สมัครง่ายๆ ดาวน์โหลด แล้ว Login
การเริ่มต้นใช้งาน LINE@ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS ทำการ Login แล้วก็เริ่มใช้งานได้เลย จะยุ่งยากหน่อยก็ในขั้นตอนการ Login เพราะจำเป็นต้องใช้บัญชี LINE ในการ Login ย้ำว่าเป็นบัญชี LINE ไม่ใช่ LINE@ ดังนั้นก่อนที่เราจะสมัครใช้ LINE@ จำเป็นต้องไปลงทะเบียนอีเมลใน LINE ส่วนตัวบนโทรศัพท์มือถือให้เรียบร้อยเสียก่อน
ในขั้นตอนการ Login ครั้งแรก LINE@ จะบังคับให้เราใส่ข้อมูลที่จำเป็น 3 อย่าง หากไม่ใส่อันใดอันหนึ่งแล้วจะ Login ไม่ได้ ได้แก่ 1) รูปโปรไฟล์ 2) ชื่อบัญชี LINE@ (ชื่อองค์กรหรือร้านค้าหรือชื่อเราเอง ตรงนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะใส่แล้วจะเปลี่ยนทีหลังไม่ได้ ต้องลบทิ้งแล้วสร้างใหม่สถานเดียว) และ 3) หมวดหมู่ธุรกิจ เพราะฉะนั้นเตรียมรูปและข้อมูลเอาไว้ให้พร้อมด้วย
Approved Account - Premium ID อีก 2 ส่วนต้องใส่ใจ
หลังจากเริ่มต้นใช้งานแล้ว ยังมีอีก 2 สิ่งที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ Approved Account และ Premium ID
Approved Account หรือบัญชี LINE@ ที่ได้รับการรับรอง ประโยชน์ที่ได้รับคือจะมีชื่อ LINE@ ID ของเราปรากฏให้เห็นในผลการค้นหาของ LINE นั่นหมายความว่าจะมีคนเห็นร้านของเรามากขึ้น เป็นการโปรโมตร้าน รวมถึงช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ บัญชีที่ผ่านการรับรองแล้วจะได้รับสัญลักษณ์ยืนยันรูปโล่สีเทาเข้ม ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://at-blog.line.me/th/guide-approved-account
Premium ID คือ LINE@ ID ที่เราสามารถตั้งชื่อเองได้ ปกติแล้วตอนที่เรา Login สร้างบัญชีครั้งแรก ระบบจะสร้าง LINE@ ID แบบสุ่มให้เรา เช่น @OSK109FL แต่ถ้าเราต้องการเปลี่ยนเป็นชื่อที่มีความหมายและเป็นที่คุ้นเคย เช่น ชื่อร้าน ชื่อบริษัท ชื่อแบรนด์ แล้ว ก็จำเป็นต้องสมัคร Premium ID ซึ่งมีการต่ออายุแบบปีต่อปี และมีค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 200 บาท โดยชำระผ่าน LINE Pay ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://at-blog.line.me/th/guide-premiumid
ผู้สนใจ LINE@ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://at.line.me/th/ และ http://at-blog.line.me/th/
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)