กรมส่งเสริมการค้าฯ เผยงาน “ไทยเฟ็กซ์” เงินสะพัด 8,185.72 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานกว่า 1.3 แสนคน ตอกย้ำความพร้อม “ครัวของโลก” เร่งทำตลาดเชิงรุก หนุนผู้ผลิตไทยสร้างมูลค่าเพิ่ม-ชูแบรนด์ไทย สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดงานแสดงสินค้า “ไทยเฟ็กซ์-เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2558” (THAIFEX-World of Food Asia 2015) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ภายในงานมีเงินสะพัดกว่า 8,185.72 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดคำสั่งซื้อในวันเจรจาธุรกิจ 3 วันแรก (20-22 พ.ค. 58) มีมูลค่ากว่า 8,115 ล้านบาท ในมูลค่านี้มียอดซื้อขายทันที 1,406 ล้านบาท และคาดการณ์ยอดขายภายใน 1 ปีประมาณ 6,709 ล้านบาท จากผู้ซื้อที่เป็นนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจต่างประเทศรวม 129 ประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com (เฉพาะในงาน 3 วัน) มีทั้งสิ้น 174 คู่ คาดว่ามีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 75 ล้านบาท (จากผู้ขายจำนวน 119 ราย และผู้ซื้อจำนวน 62 ราย) จาก 27 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, บาห์เรน, กัมพูชา, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, อียิปต์, อังกฤษ, เยอรมนี, อินเดีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์ เป็นต้น สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ผลไม้แช่แข็ง, เนื้อไก่, ข้าว, น้ำอัลคาไลน์, ปลาทูน่ากระป๋อง, ว่านหางจระเข้, ผลไม้, น้ำผัก, ผลไม้กระป๋อง, ผักกระป๋อง, สับปะรด, ข้าวโพดฝักอ่อน, มะละกอ, ปลา, เครื่องดื่ม, เครื่องแกง, อาหารสำเร็จรูป และนม
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในภาพรวมมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 130,000 ราย แบ่งเป็นภาคเอกชนและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 32,670 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 14.11% แบ่งเป็นนักธุรกิจไทย 26,248 ราย เพิ่มขึ้น 15.18% และนักธุรกิจต่างประเทศ 6,422 ราย เพิ่มขึ้น 9.93% ขณะที่บุคคลทั่วไปมีจำนวนกว่า 100,000 ราย ในจำนวนนี้มียอดขายปลีกภายในงาน (23-24 พ.ค. 58) กว่า 70 ล้านบาท
“จากการสอบถามภาคเอกชนได้รับคำตอบว่า การจัดงานอยู่ในระดับดี รวมถึงยอดคำสั่งซื้อและจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมาก ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันระหว่างกรมฯ หอการค้าไทย และผู้จัดงานโคโลญเมสเซ จากเยอรมณี ดังนั้น การจัดงานในปี 2559 จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการจองพื้นที่จัดแสดงไว้แต่เนิ่นๆ เพราะพื้นที่จองเต็มเร็วมาก ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ditp.go.th” นางนันทวัลย์กล่าวว่า
สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการจะยังจัดเป็นโซน ได้แก่ โซนอาหารและเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูปอาหารพร้อมรับประทาน ผลิตภัณฑ์เนื้อและสัตว์ปีก อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงรส ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ กาแฟและชา ขนมและอาหารขบเคี้ยว เป็นต้น โซนบริการจัดเลี้ยงและธุรกิจบริการด้านอาหาร เทคโนโลยีอาหาร ค้าปลีกและแฟรนไชส์
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารให้สามารถแข่งขันและเป็นผู้นำได้ในตลาดโลก กรมฯ ได้รับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ โดยเร่งรัดการทำตลาดเชิงกลยุทธ์ หาช่องทางเปิดตลาดใหม่ ตลอดจนการส่งเสริมผู้ผลิตไทยให้เน้นการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและการพัฒนาตราสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ ซึ่งมุ่งหวังให้คนทั่วโลกนึกถึงประเทศไทยเมื่อกล่าวถึงสินค้าเกษตรและอาหาร และเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในด้านอื่นที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์มีแผนเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าผ่านการเจรจาเชิงรุก เพื่อเปิดตลาดและลดอุปสรรคทางการค้าภายใต้กรอบการเจรจาระดับต่างๆ ควบคู่ไปกับการร่วมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหารเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกรมฯ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีความพร้อมเต็มที่ที่จะสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยศักยภาพด้านสินค้าอาหารหลากหลายประเภทที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบการไทยมีความสามารถ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนภาครัฐเองได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสโดยการสร้างช่องทางในการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าปัจจัยหลักเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยได้เติบโตในภูมิภาคเอเชีย และในตลาดโลกได้อย่างมีศักยภาพตามนโยบายรัฐบาล “ครัวไทยสู่โลก : Kitchen of the World” ได้อย่างแน่นอน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดงานแสดงสินค้า “ไทยเฟ็กซ์-เวิลด์ ออฟ ฟู้ด เอเชีย 2558” (THAIFEX-World of Food Asia 2015) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ภายในงานมีเงินสะพัดกว่า 8,185.72 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดคำสั่งซื้อในวันเจรจาธุรกิจ 3 วันแรก (20-22 พ.ค. 58) มีมูลค่ากว่า 8,115 ล้านบาท ในมูลค่านี้มียอดซื้อขายทันที 1,406 ล้านบาท และคาดการณ์ยอดขายภายใน 1 ปีประมาณ 6,709 ล้านบาท จากผู้ซื้อที่เป็นนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจต่างประเทศรวม 129 ประเทศ
นอกจากนี้ยังมีการจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com (เฉพาะในงาน 3 วัน) มีทั้งสิ้น 174 คู่ คาดว่ามีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 75 ล้านบาท (จากผู้ขายจำนวน 119 ราย และผู้ซื้อจำนวน 62 ราย) จาก 27 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, บาห์เรน, กัมพูชา, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, อียิปต์, อังกฤษ, เยอรมนี, อินเดีย, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์ เป็นต้น สำหรับสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ผลไม้แช่แข็ง, เนื้อไก่, ข้าว, น้ำอัลคาไลน์, ปลาทูน่ากระป๋อง, ว่านหางจระเข้, ผลไม้, น้ำผัก, ผลไม้กระป๋อง, ผักกระป๋อง, สับปะรด, ข้าวโพดฝักอ่อน, มะละกอ, ปลา, เครื่องดื่ม, เครื่องแกง, อาหารสำเร็จรูป และนม
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในภาพรวมมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 130,000 ราย แบ่งเป็นภาคเอกชนและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 32,670 ราย หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 14.11% แบ่งเป็นนักธุรกิจไทย 26,248 ราย เพิ่มขึ้น 15.18% และนักธุรกิจต่างประเทศ 6,422 ราย เพิ่มขึ้น 9.93% ขณะที่บุคคลทั่วไปมีจำนวนกว่า 100,000 ราย ในจำนวนนี้มียอดขายปลีกภายในงาน (23-24 พ.ค. 58) กว่า 70 ล้านบาท
“จากการสอบถามภาคเอกชนได้รับคำตอบว่า การจัดงานอยู่ในระดับดี รวมถึงยอดคำสั่งซื้อและจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมาก ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันระหว่างกรมฯ หอการค้าไทย และผู้จัดงานโคโลญเมสเซ จากเยอรมณี ดังนั้น การจัดงานในปี 2559 จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการจองพื้นที่จัดแสดงไว้แต่เนิ่นๆ เพราะพื้นที่จองเต็มเร็วมาก ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ditp.go.th” นางนันทวัลย์กล่าวว่า
สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการจะยังจัดเป็นโซน ได้แก่ โซนอาหารและเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูปอาหารพร้อมรับประทาน ผลิตภัณฑ์เนื้อและสัตว์ปีก อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงรส ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ กาแฟและชา ขนมและอาหารขบเคี้ยว เป็นต้น โซนบริการจัดเลี้ยงและธุรกิจบริการด้านอาหาร เทคโนโลยีอาหาร ค้าปลีกและแฟรนไชส์
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารให้สามารถแข่งขันและเป็นผู้นำได้ในตลาดโลก กรมฯ ได้รับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ โดยเร่งรัดการทำตลาดเชิงกลยุทธ์ หาช่องทางเปิดตลาดใหม่ ตลอดจนการส่งเสริมผู้ผลิตไทยให้เน้นการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและการพัฒนาตราสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ ซึ่งมุ่งหวังให้คนทั่วโลกนึกถึงประเทศไทยเมื่อกล่าวถึงสินค้าเกษตรและอาหาร และเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในด้านอื่นที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์มีแผนเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าผ่านการเจรจาเชิงรุก เพื่อเปิดตลาดและลดอุปสรรคทางการค้าภายใต้กรอบการเจรจาระดับต่างๆ ควบคู่ไปกับการร่วมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหารเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกรมฯ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีความพร้อมเต็มที่ที่จะสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยศักยภาพด้านสินค้าอาหารหลากหลายประเภทที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบการไทยมีความสามารถ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนภาครัฐเองได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสโดยการสร้างช่องทางในการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าปัจจัยหลักเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยได้เติบโตในภูมิภาคเอเชีย และในตลาดโลกได้อย่างมีศักยภาพตามนโยบายรัฐบาล “ครัวไทยสู่โลก : Kitchen of the World” ได้อย่างแน่นอน
![[ชมภาพชุด] น้องๆ สาวๆ ยกขบวนทัพแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารในงาน THAIFEX 2015 ถึงวันที่ 24 พ.ค.58](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/resize/184x104/558000006035601.JPEG)
