xs
xsm
sm
md
lg

THAIFEX 2015 คาดเงินสะพัด 8 พันล้านบาท มุ่งเป้า “ครัวไทยสู่โลก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมด้วยหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ จัดพิธีเปิดงาน THAIFEX-World of Food Asia 2015 สุดอลังการ พร้อมโชว์สุดยอดอุตสาหกรรมอาหารของไทยและต่างประเทศ คาดกระแสตอบรับเพิ่มขึ้นทั้งรายได้กว่า 8 พันล้านและผู้เข้าชมงาน 1.12 แสนคน เริ่มเปิดจำหน่ายปลีกสำหรับประชาชนทั่วไปวันที่ 23-24 พ.ค. ศกนี้ ณ อาคาร Challenger 1-3 และ Impact Forum Hall 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงงาน THAIFEX-World of Food Asia 2015 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ ซึ่งจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดย ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ อาคาร Challenger 1-3 และ Impact Forum Hall 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านวัตถุดิบอาหารที่หลากหลาย และผู้ประกอบการในภาคการผลิตมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในอุตสาหกรรม ส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงและมีบทบาทเป็นครัวของโลกได้อย่างแท้จริง ทั้งยังมีคุณภาพสูง ตลอดจนความสะอาดปลอดภัยที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต

อุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2557 สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นจำนวนเงินกว่า 8 แสนล้านบาท หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกในตลาดโลก ได้แก่ ข้าว, ไก่แปรรูป, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, กุ้งแช่แข็งและแปรรูป และสิ่งปรุงรสอาหาร

รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารให้สามารถแข่งขันและเป็นผู้นำได้ในตลาดโลก โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ดำเนินตามนโยบายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยส่งออกสินค้าดังกล่าว ด้วยการเร่งรัดการทำตลาดเชิงกลยุทธ์ ช่วยหาช่องทางเปิดตลาดใหม่ ตลอดจนการส่งเสริมผู้ผลิตไทยให้เน้นการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและการพัฒนาตราสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ โดยมุ่งหวังให้คนทั่วโลกนึกถึงประเทศไทยเมื่อกล่าวถึงสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร

“กระทรวงพาณิชย์ยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในด้านอื่นๆ ที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้อง โดยกระชับความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าผ่านการเจรจาเชิงรุกเพื่อเปิดตลาด และลดอุปสรรคทางการค้าภายใต้กรอบการเจรจาระดับต่างๆ ควบคู่ไปกับการร่วมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถยกระดับการประกอบการไปสู่ตลาดโลกอย่างมีประสิทธิภาพและเข้มแข็ง” นางอภิรดีกล่าวในตอนท้าย




ทางด้าน นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งาน THAIFEX-World of Food Asia 2015 จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย โดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้าอาหารเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

ในปีนี้ได้ขยายพื้นที่การจัดแสดงงานจาก 6 หมื่นตารางเมตรเป็น 7 หมื่นตารางเมตร เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสงานแสดงสินค้าที่ยอดเยี่ยมและเข้มข้นมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมงาน 1,675 บริษัท 3,942 คูหา จาก 35 ประเทศ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 1,463 บริษัท 3,435 คูหา จาก 33 ประเทศ ส่วนจำนวนผู้เข้าชมงานคาดว่าจะมีถึง 1.12 แสนราย แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ 3 หมื่นราย วันจำหน่ายปลีก 8.2 หมื่นราย เพิ่มขึ้นจาก 103,283 ราย (วันเจรจาธุรกิจ 28,631 ราย วันจำหน่ายปลีก 74,652 ราย)


นางนันทวัลย์กล่าวด้วยว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญมีแนวโน้มดีขึ้น จึงคาดว่าความต้องการสินค้าอาหารทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น โดยคาดว่างานนี้จะมีมูลค่าการซื้อขายรวม 8 พันล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าที่สั่งซื้อทันที 815 ล้านบาท, มูลค่าวันจำหน่ายปลีก 85 ล้านบาท และมูลค่าที่สั่งซื้อใน 1 ปี 7.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวม 7,352.1 ล้านบาท (มูลค่าที่สั่งซื้อทันที 747.3 ล้านบาท, มูลค่าวันจำหน่ายปลีก 77.4 ล้านบาท และมูลค่าที่สั่งซื้อใน 1 ปี 6,527.3 ล้านบาท)

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมั่นใจว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีความพร้อมเต็มที่ที่จะสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยศักยภาพด้านสินค้าอาหารหลากหลายประเภทที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากนานาชาติทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไทยยังมีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรมอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนภาครัฐเองได้ให้การส่งเสริม สนับสนุน และเปิดโอกาสโดยการสร้างช่องทางในการเจรจาการค้าและธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางการค้ากับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง

นางนันทวัลย์กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจัยต่างๆ ข้างต้นจะสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารไทยเติบโตมากขึ้นทั้งในภูมิภาคเอเชียและตลาดโลกอย่างมีศักยภาพตามนโยบายรัฐบาล “ครัวไทยสู่โลก : Kitchen of the World”

ทั้งนี้ ในส่วนการจัดแสดงสินค้าแบ่งออกเป็นกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เช่น โซนอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ผักและผลไม้ เกษตรอินทรีย์ อาหารฮาลาล อาหารสำเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน อาหารทะเล อาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์เนื้อและสัตว์ปีก อาหารเพื่อสุขภาพ เครื่องปรุงรส ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ กาแฟและชา ขนมและอาหารขบเคี้ยว เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีโซนบริการจัดเลี้ยงและธุรกิจบริการด้านอาหาร โซนเทคโนโลยีอาหาร โซนค้าปลีกและแฟรนไชส์ รวมถึงการจัดแสดงกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ World of Seafood, World of Coffee & Tea และ World of Food Service เป็นต้น







สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ของงานในปีนี้ ได้แก่
•กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์พัฒนาอาหารไทยสู่ตลาดโลก (Thailand : Kitchen of the World) ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตและผู้ส่งออกสินค้าอาหารรายสำคัญของตลาดโลกและการเป็นครัวของโลก โดยเฉพาะข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวและธุรกิจร้านอาหารไทย
•กิจกรรมส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ได้รับตรา THAI SELECT และนิทรรศการสร้างภาพลักษณ์ตราสัญลักษณ์ THAI SELECT เพื่อเป็นการส่งเสริมอาหารไทยและผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ได้รับตรา THAI SELECT ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงจัดให้มีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอาหารไทยสำเร็จรูปที่ผ่านการพิจารณาให้ได้รับตรา THAI SELECT ด้วย
•นิทรรศการอาหารฮาลาล เพื่อแนะนำสินค้าอาหารฮาลาลของไทยและต่างประเทศ
•นิทรรศการ I+D Style Café และ TTM + PM Award ในบรรยากาศร้านคาเฟ่ยุคใหม่ที่ผ่อนคลาย อบอุ่นและเป็นกันเอง ตกแต่งด้วยสินค้านวัตกรรมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัล PM Award และตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark รวมถึงมุมให้คำแนะนำการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของสถาบันฯ
•DITP Service Center : SMEs to AEC เพื่อให้บริการข้อมูล/คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศของกรมฯ โดยบูรณาการระหว่างหน่วยงานด้านการให้บริการของกรมฯ ประกอบด้วย ศูนย์บริการการค้าระหว่างประเทศ (DITP Call Center 1169) เพื่อให้บริการข้อมูล/คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ / สำนักพาณิชย์ดิจิตอล เพื่อให้บริการข้อมูล/คำปรึกษา และรับสมัครสมาชิกเว็บไซต์ Thaitrade.com เว็บไซต์การค้าออนไลน์ของกรมฯ รวมไปถึงให้บริการข้อมูล/คำปรึกษาด้านเอกสารการส่งออก การขอฟอร์ม/เอกสารการส่งออก การขนส่งและระบบลอจิสติกส์ / สถาบันองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้บริการข้อมูล/คำปรึกษา และรับสมัครเข้าร่วมการอบรมหลักสูตรต่างๆ ด้านการค้าระหว่างประเทศ / สำนักประชาสัมพันธ์ เพื่อแนะนำและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการของไทยสำหรับนักธุรกิจและผู้ประกอบการต่างประเทศ ผ่าน e-Newsletter และ www.thailandhorizon.com
•กิจกรรมส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้รับประทาน เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำจากสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมและมีการแปรรูปเป็นเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน ยาเม็ดเสริมอาหาร และมีงานวิจัยสนับสนุนว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น กวาวเครือ กระชายดำ ขมิ้นชัน เป็นต้น โดยจัดเป็นนิทรรศการในรูปแบบ Modern drug store เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดในกลุ่ม Modern trade
•นิทรรศการ 60+ มุมแสดงสินค้าของสมาชิกโครงการ 60+ และจัดแสดงสินค้าอาหารสำหรับผู้สูงอายุในลักษณะ Select Shop ภายใต้ธีม “Royal Healthy for Japanese Senior’s Life” โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Quality Agriculture, Thai Touch Traditional, Thai Touch-Casual, และ Edible Cures
•นิทรรศการข้าวไรซ์เบอร์รี เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอร์รีโดยใช้หลัก “การตลาดนำการผลิต” คือการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ภายในนิทรรศการจะเน้นเรื่องราวที่มา การเพาะปลูก และลักษณะเด่นของข้าวไรซ์เบอร์รี โดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการซึ่งจะออกมาในรูปแบบของ live exhibition และการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี
•การแข่งขัน เช่น Thailand Ultimate Chef Challenge และ Global Chefs Challenge Semi-Final Continental Competition ซึ่งเป็นการจัดครั้งแรกในประเทศไทย มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 36 คน จาก 12 ประเทศ
•สัมมนา / Conference เช่น World of Food Safety Conference / Asian Food Franchise Forum และ Thai GAP การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสินค้าเกษตรสู่ความปลอดภัยระดับสากล เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.ditp.go.th และ www.thaitradefair.com หรือสายด่วนการค้าระหว่างประเทศ 1169







กำลังโหลดความคิดเห็น