“ซีโอแอล” ไล่เทกโอเวอร์ธุรกิจลอจิสติกส์และเว็บไซต์ คาดสิ้นปีรู้ผลหวังเติมเต็มธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ รุกต่างประเทศ เล็งเออีซีก่อนรุกทั้งเอเชีย เป้ารายได้ปีนี้ 800 ล้านบาท
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับทางด้านธุรกิจออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 5 ราย เพื่อที่จะร่วมมือในลักษณะร่วมทุนเป็นพันธมิตรในการรุกตลาดออนไลน์
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการเจรจาที่จะเทกโอเวอร์กิจการอย่างน้อย 2-3 รายที่ทำธุรกิจทางด้านลอจิสติกส์ กับธุรกิจเว็บไซต์มาร์เกตเพลส เพื่อนำมาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้แก่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของเซ็นทรัลให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยงบประมาณที่เตรียมเทกโอเวอร์ประมาณ 500 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปได้ก่อนสิ้นปีนี้ หากไม่สำเร็จบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะลงทุนเองอยู่แล้ว
ทั้งนี้ หากเทกโอเวอร์สำเร็จบริษัทฯ จะเริ่มดำเนินการขยายธุรกิจค้าออนไลน์ตลาดต่างประเทศได้ทันที โดยเฉพาะเซาท์อีสต์เอเชียก่อนที่จะไปสู่ตลาดเอเชีย เพราะเรามีเครือข่ายุธุรกิจที่ครอบคลุม เบื้องต้นเริ่มใน 3 ประเทศก่อน คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งทั้งสามประเทศนื้มูลค่าค้าขายออนไลน์มากกว่าไทยถึง 10 เท่า แม้อยู่ในช่วงเริ่มต้นเหมือนไทย และเป็นประเทศที่เซ็นทรัลมีธุรกิจอยู่แล้วจะยิ่งทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้นด้วย ส่วนเฟสที่สองคือ อีก 7 ประเทศที่เหลือในกลุ่มเออีซี ซึ่งคงไม่ยากหากใน 3 ประเทศแรกทำสำเร็จ
ปัจจุบันตลาดค้าปลีกออนไลน์ของไทยยังต่ำอยู่มาก ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เช่นเดียวกันเราก็ต้องขยายตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างการเติบโต ซึ่งในไทยสัดส่วนจากออนไลน์ยังไม่ถึง 1% จากมูลค่าค้าปลีกรวมกว่า 2 แสนล้านบาท แต่คาดว่าไม่เกิน 5 ปีจากนี้จะเพิ่มเป็น 8% ได้ ส่วนจีนนั้นสูงสุดในโลกคือ 12% จากมูลค่าค้าปลีก เกาหลี 9% โดยเฉลี่ยทั่วโลกมีสัดส่วน 5.6% จากมูลค่าค้าปลีกรวมในประเทศ
ตลาดเอเชียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ผู้ประกอบการจากยุโรปและอเมริกาก็สนใจขยายธุรกิจออนไลน์เข้ามามากขึ้นในเอเชียและไทยด้วย รายใหญ่ก็เข้ามามากแล้ว ขณะที่ทุนท้องถิ่นในเอเชียยังไม่มีรายใหญ่ทางด้านออนไลน์คุมตลาดได้ จึงเป็นโอกาสของเราที่มีความพร้อม โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจากนี้รายได้ออนไลน์ของเราจะมีสัดส่วน 10% ของรายได้เซ็นทรัลกรุ๊ป
นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ของซีโอแอลในไทยปีนี้ตั้งไว้ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วทำได้ 80 ล้านบาทท ที่ผ่านมานี้เฉลี่ยเติบโต 20% ต่อเดือน มีอัตราการซื้อซ้ำของลูกค้า 70% และมีลูกค้าใหม่เพิ่มเฉลี่ย 20% สินค้าที่ขายดีคือกลุ่มคอสเมติกส์ สมาร์ทโฟนและแก็ดเจ็ต เครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สินค้าแม่และเด็ก อัตราการซื้อเฉลี่ย 2,300 บาทต่อคนต่อครั้ง ส่วนการซื้อซ้ำเฉลี่ย 5,000 กว่าบาทขึ้นไป ขณะนี้มีสินค้า 50,000 เอสเคยู จะเพิ่มเป็น 120,000 เอสเคยู จาก 18 กลุ่ม
ล่าสุดร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์เปิดโอกาสให้สินค้าของเอสเอ็มอีเข้ามาในระบบออนไลน์ของเซ็นทรัล เริ่มต้นที่เอสเอ็มอี 18 ราย จากที่มีการลงทะเบียนไว้กว่า 76 ราย โดยเป็นสินค้าโอทอปประจำจังหวัดเป็นหลัก เงื่อนไข 1 ปีเก็บค่าจีพีต่ำมาก และจ่ายเงินคืนเร็วประมาณ 15 วัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอี
iframe src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fmarketingnews.astv&width=292&height=290&show_faces=true&colorscheme=light&stream=false&border_color&header=true" scrolling="no" frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:292px; height:290px;" allowTransparency="true">