“ออฟฟิศเมท” ชี้ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ได้รับผลดีจากการชุมนุม โตกว่า 30% ยันระยะสั้นไม่กระทบแผนใหญ่ ปีนี้ขอทุ่ม 600 ล้านบาทขยายธุรกิจเพิ่ม 8 สาขา ขยายธุรกิจงานพิมพ์ เพิ่มกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อโดยรวมของผู้บริโภคหายไปกว่า 20% และหากเหตุการณ์ยังยืดเยื้อนานกว่านี้คาดว่าจะกระทบค่าจีดีพีของประเทศแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพียงแค่สะดุดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับต้องปรับแผนใหญ่ระยะยาว แต่หากเหตุการณ์ยืดเยื้อและรุนแรงกว่านี้คงต้องมีการปรับแผนใหม่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนภาพรวมของบริษัทฯ ธุรกิจยังไปได้ดี โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือสั่งซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ต และแค็ตตาล็อกเซลที่เติบโต 30% ในช่วงเดือนธันวาคมถึงขณะนี้จากยอดซื้อเฉลี่ย 2,700 บาทต่อบิล เพิ่มเป็น 3,500 บาทต่อบิล แต่มีบางสาขาที่ได้รับผลกระทบเพราะอยู่ใกล้พื้นที่ชุมนุม 3 สาขา คือ อโศก พญาไท และจัสมินซิตี้ ลดลงกว่า 20-30%
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้จะใช้งบลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท แบ่งเป็น การเปิดสาขาใหม่อีก 8 สาขา เท่ากับปีที่แล้ว แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 4 สาขา ต่างจังหวัด 4 สาขา และการรีโนเวตสาขาเดิม เช่น สาขาอาร์ซีเอ รังสิต ซีคอนสแควร์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีสาขารวม 52 สาขา การทำตลาดกับโปรโมชันตลอดทั้งปี การลงทุนด้านความพร้อมต่างๆ และการขยายกลุ่มสินค้าใหม่ๆ รวมทั้งการขยายธุรกิจออฟฟิศเมทพรินติ้งโซลูชันด้วย
โดยธุรกิจใหม่ออฟฟิศเมทพรินติ้งโซลูชันที่บริษัทฯ พัฒนามานานกว่า 5 ปีแล้ว ปีนี้จะรุกหนักชัดเจน เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการรับงานพิมพ์ครบวงจร ซึ่งปีนี้จะขยายเพิ่ม เช่น พรินติ้งอิงก์เจ็ต งานพิมพ์ป้ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่างๆ และเปิดจุดให้บริการงานพิมพ์ในร้านออฟฟิศเมทสาขาต่างๆ เพิ่มขึ้น และจัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าครบ 499 บาท ตั้งเป้าเปิดให้บริการ 10 สาขาในปีนี้ ที่เปิดบริการแล้ว เช่น สาขาสิรินธร สาขายูไนเต็ดเซ็นเตอร์สีลม สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ เป็นต้น ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ารายได้ส่วนงานพิมพ์ไว้ที่ 20 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 10 กว่าล้านบาท แม้รายได้ยังน้อยแต่เติบโตดี
นอกจากนั้นจะขยายกลุ่มสินค้าไปยังเฟอร์นิเจอร์สำนักงานด้วย จากปัจจุบันมีสินค้าหลักๆคือ 1. กลุ่มคอมพิวเตอร์ สินค้าไอที เครื่องพิมพ์ 2. กลุ่มแมชีนเนอรี เช่น เครื่องตอกบัตรเวลาทำงาน เครื่องตัดกระดาษ 3. กลุ่มเครื่องเขียน 4. กลุ่มกระดาษ โดยมีสินค้าเฮาส์แบรนด์ 10% ตั้งเป้าหมายปีนี้เป็น 20% โดยมีช่องทางจำหน่ายหลากหลาย เช่น ออฟไลน์ และออนไลน์ โทรศัพท์ซื้อผ่านคอลเซ็นเตอร์ 0-2739-5555 หรือสั่งซื้อผ่านออนไลน์ทั้งเว็บไซต์ www.officemate .co.th และ e-Procurement บริการทาง Live Chat และหน้าร้าน เป็นต้น โดยพิมพ์แค็ตตาล็อกหนากว่า 1,000 หน้า สินคากว่า 20,000 รายการ แจกฟรีจำนวน 300,000 เล่มแก่ผู้สนใจ และเร็วๆ นี้เตรียมขยายธุรกิจสู่การรับชำระค่าสินค้าและบริการต่าๆ ด้วย
นายวรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยเฉพาะหลังการเปิดเออีซีแล้วนั้นบริษัทฯ สนใจเช่นกัน และเป็นนโยบายของกลุ่มเซ็นทรัลอยู๋แล้ว โดยเราจะเน้นไปในประเทศที่บริษัทแม่ทำธุรกิจอยู่แล้ว เนื่องจากจะมีความสะดวกและทำให้มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา เนื่องจากตลาดเออีซีมีศักยภาพและมีการเติบโตที่สูงมาก แต่ว่าการที่จะทำธุรกิจในแต่ละประเทศคงต้องศึกษารายละเอียดเพราะมีความแตกต่างกัน