กกพ.หนุนประชาชนยื่นคำขอติดตั้งผลิตไฟจากแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านหรือโซลาร์รูฟท็อป ที่จะเปิดรับถึง 30 มิ.ย.นี้ โดยการเปิดรับตั้งแต่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมายอดคำขอยื่นติดตั้งได้เพียง 20 เมกะวัตต์ ห่างเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 78.63 เมกะวัตต์ ย้ำขั้นตอนง่ายๆ ไม่ต้องยื่นขอ รง.4
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ประเภทที่อยู่อาศัย (Solar PV Rooftop) เพิ่มเติมให้ครบจำนวน 100 เมกะวัตต์ หลังจากที่ กกพ. ได้ออกประกาศการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 และได้เปิดให้มีการรับซื้อไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ล่าสุดมีผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้าจำนวนรวมทั้งสิ้น 2,527 ราย คิดเป็น 19.53 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 445 ราย คิดเป็น 3.226 เมกะวัตต์ (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2558) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จำนวน 2,082 ราย คิดเป็น 16.304 เมกะวัตต์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2558) ในขณะที่เป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 78.63 เมกะวัตต์
“กกพ.จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนยื่นคำขอขายไฟฟ้าในโครงการให้มากๆ ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และโครงการนี้นอกจากจะช่วยชาติแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการลดวิกฤตด้านพลังงานของประเทศ และเป็นการพึ่งพาตัวเองได้ในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ อยากจะเสริมว่าขั้นตอนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าไม่ยุ่งยากและเสียเวลาอย่างที่คิด โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต รง.4 แล้ว และขั้นตอนการให้บริการยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ ก็เป็น One Stop Service คือมาจุดเดียวเบ็ดเสร็จที่สำนักงาน กกพ. ซึ่งคอยบริการประชาชนให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใสทุกขั้นตอน” นายวีระพลกล่าว
ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าวได้ให้ กฟน.รับซื้อไฟฟ้า ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ามีระยะเวลา 25 ปี และได้กำหนดให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งหากไม่มีการเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าภายในเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสิ้นสุด สำหรับอัตราการรับซื้อไฟฟ้ากำหนดให้เป็นไปตามอัตราการรับซื้อแบบสะท้อนต้นทุน (Feed in Tariffหรือ FiT) ประเภทบ้านอยู่อาศัย อัตรา 6.85 บาทต่อหน่วย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอขายไฟฟ้าได้ที่การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของสถานที่ที่จะเข้าร่วมโครงการ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามและยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าฯ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่รับซื้อได้เต็มเป้าหมาย แต่ต้องไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2558
