xs
xsm
sm
md
lg

“ออฟฟิศ เฟิร์ส” รีแบรนด์-เปิดตัว “โอโว่” ระบบสำนักงานเจาะกลุ่ม “บิสิเนส สตาร์ทอัพ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายชัชวาลย์ พิสิฐไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิค สตรองค์โฮลด์ จำกัด
“แปซิฟิค สตรองค์โฮลด์” ผู้ให้บริการสำนักงานสำเร็จรูปพร้อมใช้ภายใต้แบรนด์ “ออฟฟิศเฟิร์ส” รีแบรนดิ้งคอร์ปอเรตแบรนด์ ปักธงผู้นำสมาร์ทออฟฟิศโซลูชั่น สำนักงานสำเร็จรูปพร้อมใช้สัญชาติไทย เปิดตัวบริการ “โอโว่” (OVO : Office First Virtual Office) ระบบสำนักงานอัจฉริยะ ตอบโจทย์การทำงานของนักธุรกิจยุคใหม่ และกลุ่ม “บิสิเนส สตาร์ทอัพ” เชื่อมั่นบริการตรงใจกลุ่มเป้าหมาย คาดส่งผลยอดขายปี 2558 เฉียด 400 ล้านบาท

นายชัชวาลย์ พิสิฐไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิค สตรองค์โฮลด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2549 เพื่อให้บริการด้านสำนักงานให้เช่า หรือ Serviced Office ภายใต้แบรนด์ “ออฟฟิศ เฟิร์ส (Office First)” ซึ่งดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 โดยเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเซอร์วิสออฟฟิศสัญชาติไทยร้อยเปอร์เซ็นต์รายแรก ประกอบกับแนวโน้มการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนักธุรกิจกำลังมองหาช่องทางการลดต้นทุนการจัดทำสำนักงานและแสวงหาผู้ช่วยในการทำธุรกิจแบบสำเร็จรูป “ออฟฟิศ เฟิร์ส” จึงทำการรีแบรนดิ้งและรีโนเวตออฟฟิศให้ทันสมัยและสร้างฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานให้ตรงจุด ด้วยการวิเคราะห์ความต้องการตลาด และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งให้แก่แบรนด์

ด้วยความเป็นแบรนด์ไทยที่เข้าใจความต้องการของคนไทยมาผนวกกับรูปแบบบริการที่เป็นมาตรฐานสากลที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติได้อย่างครบครัน ภายใต้แนวคิด “Where smart business begins เริ่มต้นอย่างชาญฉลาด เริ่มต้นที่ Office First ผู้ให้บริการสำนักงานสำเร็จรูปพร้อมใช้และบริการสำนักงานอัจฉริยะที่ครบวงจร” โดยมีความโดดเด่นด้วยที่ตั้งใจกลางย่านธุรกิจบนถนนสาทรใต้ ภายในอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 47 ที่เชื่อมโยงกับระบบคมนาคมที่สะดวกในการเดินทาง

“ออฟฟิศ เฟิร์ส” มีพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 900 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องสำนักงานขนาดตั้งแต่ 1-2 คนไปจนถึง 15 คน จำนวน 35 ห้อง, ห้องประชุม 3 ห้องที่มีบริการประชุมทางไกล (Video Conference) ระบบโพลีคอม (Polycom) ที่ทันสมัยที่สุดให้ภาพและเสียงสนทนาที่คมชัดระดับ HD, พื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working space) จำนวน 2 ห้อง และสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องสัมมนาขนาด 30 ที่นั่งได้ ออกแบบใหม่ในสไตล์โมเดิร์นลอฟต์บนคอนเซ็ปต์สภาพแวดล้อมกำหนดมนุษย์เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์พบปะพูดคุยต่อยอดธุรกิจและสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมบริการที่สะท้อนความเป็นสมาร์ทสเปซด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และระบบรักษาความปลอดภัย access control และ CCTV ให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ถึงความสะดวกและความปลอดภัยในการทำงาน โดยใช้งบประมาณในการลงทุนรีโนเวตสถานที่และรีแบรนด์ใหม่กว่า 65 ล้านบาท

นายชัชวาล กล่าวว่า “ออฟฟิศ เฟิร์ส”เล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาดจากแนวโน้มสถิติผู้ประกอบการในปัจจุบันที่เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุเริ่มเข้าสู่วัยทำงานเฉลี่ยตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป หรือแม้ขณะยังเป็นนักศึกษา และเกิดกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางมากขึ้น โดยในปี 2557 มียอดการจดทะเบียนการค้าทั้งนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางถึงกว่า 70,000 ราย เป็นนักธุรกิจในกลุ่มอายุระหว่าง 28-40 ปีกว่า 70% รวมไปถึงการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ส่งผลให้มีแนวโน้มการลงทุนจากต่างชาติ หรือการขยายสาขาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นของธุรกิจข้ามชาติ

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้น ทำให้ “ออฟฟิศ เฟิร์ส” คิดค้นบริการเพื่อมาตอบความต้องการของตลาดในการเป็นผู้ช่วยทำธุรกิจด้วยต้นทุนต่ำ แต่ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดทำสำนักงานด้วยการเปิดตัวบริการ OVO : Office First Virtual Office ซึ่งเป็นบริการสำนักงานอัจฉริยะที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจาก Virtual Office ทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน ด้วยการวางจุดขายในการเป็นบริการสำนักงานอัจฉริยะที่เชื่อมโยงสู่การขับเคลื่อนธุรกิจได้จากทุกที่

“รูปแบบการทำงานทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป นักธุรกิจไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานที่ออฟฟิศ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เริ่มทำธุรกิจด้วยตัวเองมักชอบไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ หรืออยู่ที่บ้าน ตลอดจนผู้ประกอบการบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลาง รวมถึงนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องไปพบลูกค้า หรือเดินทางไปต่างประเทศ และไม่สะดวกที่จะจัดการงานเอกสาร หรือลงทุนจ้างพนักงานเพื่อจัดทำส่วนงานแอดมิน หรือแบ็กออฟฟิศ” นายชัชวาล กล่าว

“ออฟฟิศ เฟิร์ส” จึงได้ออกแบบและพัฒนาบริการ OVO ให้แก้ไขปัญหาของลูกค้าและเติมเต็มช่องว่างของบริการ Virtual Office แบบเดิมๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนให้สมบูรณ์และครบวงจรที่สุด โดยพุ่งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม ด้วยการนำเทคโนโลยี Virtualization มาพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างง่ายดายจากทุกๆ ที่ด้วยระบบจัดการแบบมืออาชีพ ที่ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีกับทีมแบ็กออฟฟิศของ “ออฟฟิศ เฟิร์ส” เข้าด้วยกัน

ส่วนประกอบฟีเจอร์ที่สำคัญของ OVO คือการนำเทคโนโลยีด้านไอทีมาผสานกับระบบโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์เชื่อมโยง การทำงานของพนักงานของบริษัทผู้ใช้บริการจากที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยระบบ Cloud PBX ที่สามารถสร้างเบอร์ 02 และเบอร์ต่อภายในเพื่อให้พนักงานสามารถสื่อสารถึงกันได้จากทุกที่ผ่านระบบ VOIP โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เทคโนโลยี Dashboard & Widget ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถบริหารธุรกิจได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของธุรกิจได้รอบด้านทั้งงานขาย การตลาด งานบัญชี และเอกสารที่เก็บอยู่ใน Cloud Storage เป็นต้น

ด้วยการประสานการทำงานแบบคอลลาโบเรชัน (Collaboration) ทำให้สามารถบริหารงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา และระบบ Social Media Analytic ที่รวบรวมสถิติทางการตลาด ออนไลน์บน Facebook, Twitter และ Instagram แล้วนำมาแสดงผลเป็นกราฟและแสดงค่าทางการตลาดที่สำคัญเพื่อการวิเคราะห์ รวมถึงเพื่อตรวจสอบว่าผู้คนพูดถึงแบรนด์ของคุณอย่างไรบ้างในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งสามารถตอบกลับความคิดในแง่ลบได้ทันที

“ออฟฟิศ เฟิร์ส” สร้าง OVO จากแนวคิด “แชร์ อีโคโนมี” (Share Economy) ดังนั้นลูกค้าของ “ออฟฟิศ เฟิร์ส” จะได้ใช้บริการที่ทันสมัยที่สุด ครบครันที่สุดบนพื้นฐานราคาที่เหมาะสมและจับต้องได้ โดยบริการ OVO ราคาเริ่มต้นเพียง 2,400 บาท ซึ่งนอกจากจะได้ใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการงานออฟฟิศแล้ว บริการ OVO ยังให้พื้นที่บิสิเนส เลานจ์ และห้องประชุม รวมถึง Co-working space กับผู้ซื้อแพกเกจ OVO อีกด้วย

นอกจากผู้ใช้บริการ “ออฟฟิศ เฟิร์ส” จะมั่นใจได้ในคุณภาพและความทันสมัยของบริการแล้ว ยังมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและตัวตนที่มีอยู่จริงของบริษัทนั้นๆ อีกด้วย โดย “ออฟฟิศ เฟิร์ส” ได้วางมาตรการในการตรวจสอบคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการ OVO อย่างละเอียดถึงความมีตัวตนอยู่จริง และการประกอบธุรกิจที่ถูกกฎหมายเพื่อป้องกันการเพาะพันธุ์อาชญากรทางธุรกิจ ส่วนด้านแผนการตลาด

“เราเชื่อมั่นว่าบริการนี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ทุกมิติทั้งไลฟ์สไตล์การทำงาน ความสะดวกในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยภาพลักษณ์อย่างมืออาชีพ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำธุรกิจที่คุ้มค่าและสมเหตุสมผล อันจะส่งผลต่อยอดขายที่คาดว่าจะเติบโตถึง 400 ล้านบาท โดยมีโครงการที่จยังะขยายสาขาไปยังเขตพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติมอีกด้วย” นายชัชวาล กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น