โพลคาดเงินสะพัดเปิดเทอมปีนี้ 4.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% แต่โตต่ำสุดในรอบ 6 ปี เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว คนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย และผู้ปกครองเป็นหนี้เยอะ
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเปิดเทอมปี 2558 ว่า ในปีนี้ผู้ปกครองจะมีมูลค่าการใช้จ่ายด้านการศึกษาแก่บุตรหลานที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจำนวน 48,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% แต่เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว และผู้ปกครองมีหนี้ครัวเรือนเฉลี่ยที่ 198,154 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่งผลให้ผู้ปกครองระมัดระวังการใช้จ่ายเป็นพิเศษ
สำหรับเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม ผู้ปกครองมากถึง 56.9% ที่มีเงินไม่เพียงพอ ต้องใช้วิธีกู้ยืมญาติพี่น้อง จำนำทรัพย์สิน กู้เงินในระบบและนอกระบบ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผลสำรวจยังพบว่าโรงเรียนนานาชาติหรือโรงเรียนอินเตอร์ที่ดังๆ เก็บค่าเทอมในระดับ 100,000 บาทขึ้นไป หรือบางโรงเรียนเรียกเก็บค่าแปะเจี๊ยะในระดับหลัก 100,000 บาท ก็ยังมีผู้ปกครองยอมจ่ายและยอมรอคิวเพื่อให้ลูกหลานได้เข้าเรียน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ปกครองต้องการให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือมากที่สุด คือ ด้านการศึกษา ทุนการศึกษา และการเรียนฟรี และยังต้องการให้สร้างความเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา ต้องการบุคลากรด้านการศึกษาที่มีคุณภาพ และช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งต้องการให้มีการปรับปรุงหลักสูตรการสอนให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน โดยทำการศึกษาหลักสูตรของประเทศที่พัฒนาแล้วเพื่อนำมาปรับใช้กับไทย
ส่วนข้อเสนอแนะของผู้ปกครองต่อรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษา เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ขอให้มีการเพิ่มทุนการศึกษาเพื่อสนับสนุนผู้ด้อยโอกาสและเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ที่มีอนาคต ส่งเสริมและสนับสนุนด้านภาษาเพิ่มขึ้น สร้างบุคลากรที่มีความพร้อมเพิ่มขึ้น ส่งเสริมด้านวิชาชีพเพิ่มมากขึ้น และสอนให้เยาวชนรู้จักคิด วิเคราะห์มากกว่าท่องจำเพื่อทำข้อสอบ