xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ ขายตรงปีแพะหืดขึ้นคอ “กิฟฟารีน” เท 335 ล้านปรับวิธีขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พญ.นลินี ไพบูลย์
ตลาดขายตรงซึมทั้งปี! คาดโต 5-7% เหตุเศรษฐกิจนิ่ง กำลังซื้อรากหญ้ารัดเข็มขัด “กิฟฟารีน” ทำใจวางหมากแก้เกมตั้งรับตั้งแต่กลางปีก่อน อัดงบรวม 335 ล้านบาท ลุยปี 58 ชูกลยุทธ์ทำการภายใน ดูแลฐานลูกค้า เน้นให้ความรู้นักธุรกิจเร่งปั๊มยอด หวังทั้งปีดันรายได้สู่ 5,800 ล้านบาท

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดขายตรงในปีนี้มองว่าน่าจะโตที่ 5-7% ในระดับปกติ เนื่องจากปีนี้บรรยากาศของธุรกิจขายตรงไม่ค่อยดี จากข่าวที่เกิดขึ้นต้องมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ดี ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ค่อยดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อนทำให้ภาพรวมในปีนี้คาดการณ์ได้ยากและเป็นปีที่ท้าทาย โดยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังนั้นหากภาครัฐส่งเสริมให้ภาคการส่งออกเป็นไปได้ด้วยดีจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจทั้งหมด มีเงินหมุนเวียนในระบบ ทำให้แรงงานมีรายได้ น่าจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเทศกระเตื้อง บวกกับไม่มีภัยธรรมชาติ บ้านเมืองสงบ ธุรกิจขายตรงน่าจะไม่มีอะไรสะดุดในครึ่งปีหลัง

ส่วนของ “กิฟฟารีน” มองเห็นสัญญาณทางเศรษฐกิจตั้งแต่กลางปีก่อน จึงมุ่งให้ความรู้แก่นักธุรกิจเร่งชูจุดแข็งในเรื่องของสินค้าที่มีความหลากหลายกว่า 2,000 รายการที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ในสถานการณ์ที่กำลังซื้อระดับล่างใช้จ่ายน้อยลงเพียงครั้งละ 400 บาทเท่านั้น แต่ในกลุ่มระดับกลางขึ้นบนกลับมียอดขายที่ดีขึ้นเดือนละ1,000 กว่าบาทขึ้นไป มองว่าน่าจะมาจากการลดการใช้สินค้าแบรนด์เนมลงและหามาซื้อผลิตภัณฑ์ “กิฟฟารีน” ที่มีคุณภาพและราคาไม่แพงแทน

บริษัทฯ พร้อมใช้กลยุทธ์ทำการตลาดภายใน มุ่งดูแลฐานลูกค้าเดิมเป็นหลักซึ่งมีกว่า 7.2 ล้านสมาชิกแอกทีฟในลักษณะทำธุรกิจกิฟฟารีนราว 10% พร้อมพัฒนาปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ รวมถึงการวิจัยในการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่มีขึ้นในเดือน ส.ค.ศกนี้ โดยในแง่ของศูนย์ “กิฟฟารีน” ปัจจุบันมีอยู่กว่า 109 แห่ง หลังจากนี้จะไม่เน้นเปิดเพิ่ม แต่จะเน้นรีโนเวทสู่รูปแบบการจัดวางสินค้าที่สะดวกต่อการเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นซึ่งทำได้แล้วกว่า 50%

สำหรับในส่วนของการลงทุนนั้นโดยรวมใช้เพียง 335 ล้านบาทเท่ากับปีก่อน แบ่งออกเป็นงบการตลาด 100 ล้านบาท งบอินเทนซีฟ 200 ล้านบาท และงบลงทุนในโรงงาน 3 แห่ง รวม 35 ล้านบาท สำหรับเพิ่มเครื่องจักรผลิตสินค้าใหม่ เช่น ลิปสติก และผลิตภัฑณ์ควบคุมน้ำหนัก เป็นต้น

พญ.นลินีกล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดต่างประเทศซึ่งเข้าไปดำเนินการแล้วหลายประเทศ เช่น พม่า, ลาว, มาเลเซีย, กัมพูชา และดูไบ เป็นตลาดที่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะดูไบกำลังซื้อสูงมาก ปีก่อนมีรายได้ต่างประเทศทำได้กว่า 100 ล้านบาท ปีนี้มองว่าจะทำได้สูงถึง 200 ล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศไทยนั้นช่วงไตรมาสแรกมาจนถึงเดือน เม.ย 58 มีอัตราการเติบโต 8.9% จากการที่นักธุรกิจ “กิฟฟารีน” มุ่งมั่นสร้างยอดขาย ทั้งปีเชื่อว่าจะทำรายได้ถึง 5,800 ล้านบาทได้ จากปีก่อนปิดที่ 5,400 ล้านบาท




กำลังโหลดความคิดเห็น