บีโอไอเผยผลสำเร็จโรดโชว์ชักจูงการลงทุนที่เกาหลีใต้ มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งไอที พลังงานทดแทน อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ยานยนต์ เล็งเห็นโอกาสเข้าสู่ตลาดอาเซียน ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่แสดงความสนใจลงทุนในด้านระบบราง การกำจัดขยะ และเอนเตอร์เทนเมนต์
นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงผลการเดินทางไปโรดโชว์ชักจูงการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาซึ่งมี นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของบีโอไอ ว่าภายในงานสัมมนามีนักลงทุนเกาหลีใต้ให้ความสนใจกว่า 250 รายจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ไอที พลังงานทดแทน อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ยานยนต์ รวมทั้งธุรกิจการค้า
สำหรับการสัมมนา กระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอเน้นการนำเสนอเนื้อหาของนโยบายเศรษฐกิจสำคัญๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจดิจิตอล การขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการค้า เช่น กิจการสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ หรือ International Headquarters (IHQ) และกิจการบริษัทการค้าระหว่างประเทศ หรือ International Trading Centers (ITC) โดยชี้ให้เห็นประโยชน์ที่บริษัทเกาหลีใต้จะได้รับจากการเลือกประเทศไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อเข้าสู่ตลาดอาเซียนที่มีประชากรเกือบ 600 ล้านคน พร้อมทั้งการชี้แจงยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่
ขณะที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ความสนใจซักถามเกี่ยวกับการร่วมทุน รายละเอียดสิทธิประโยชน์ของอุตสาหกรรมไอซีที ตลอดจนการสอบถามเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ การถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของการชี้แจงนโยบายการลงทุนใหม่ นักลงทุนเกาหลีใต้ก็เกิดความเข้าใจมากขึ้น และมองเห็นโอกาสของการเข้าสู่ตลาดอาเซียนได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับการพบหารือกับบริษัทรายใหญ่ของเกาหลีใต้ พบว่านักลงทุนให้ความสนใจต่อแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะด้านระบบราง อุตสาหกรรมสีเขียว เช่น การกำจัดขยะ ตลอดจนชิ้นส่วนยานยนต์ และเอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กิจกรรมโรดโชว์ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ถือเป็นกิจกรรมโรดโชว์ครั้งที่ 2 ของปีนี้ ต่อจากครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น และสำหรับกิจกรรมโรดโชว์สร้างความเชื่อมั่นและชี้แจงยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ในลำดับถัดไปของบีโอไอจะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปีนี้เป็นโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 40 ปี ซึ่งคาดว่านักลงทุนจีนจะตอบรับการสัมมนายุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ระยะ 7 ปี (พ.ศ. 2558-2564) ด้วยดี ดังเช่นที่ได้จัดที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้