“อาเจ กรุ๊ป” ตอกย้ำไทยเป็นตลาดสำคัญ ปั้นแบรนด์ใหม่ “บิ๊กเฟรช” รุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้ เป็น 3 ประเทศแรกในโลก เสริมพอร์ตโฟลิโอ ดันแชร์รวมอัดลมปีนี้เป็น 20% เผยมีอีกหลายแบรนด์ถ้าเหมาะสมจะรุกตลาดไทย
นายฆอร์เก้ โลเปซ คอริกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อาเจ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบิ๊กโคล่า และแบรนด์อื่นๆ จากประเทศเปรู เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญตลาดหนึ่งของอาเจกรุ๊ปในการทำธุรกิจและขยายตลาดเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญมาตั้งแต่แรกเมื่อครั้งเข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อปี 2549 และเป็นประเทศแรกในตลาดเอเชียด้วย และปัจจุบันเอเชียสร้างรายได้ให้บริษัทสัดส่วน 30%
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าในพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย ซึ่งที่เข้ามาทำตลาดในไทยแล้วคือ น้ำอัดลมบิ๊กโคล่า, น้ำดื่มเซียโล่, เครื่องดื่มเกลือแร่สปอเรต และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ยังไม่ได้เข้ามาทำตลาดในไทย เช่น น้ำผลไม้ซีฟรุต และพัลช์ เครื่องดื่มชูกำลังโวลท์ และชาพร้อมดื่มคูลที เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การนำแบรนด์ใหม่เข้ามารุกตลาดในไทยจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของตลาดหลายอย่างด้วยว่าเป็นอย่างไร เช่น ตลาดชาพร้อมดื่มในไทย การแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ แนวทางการขยายตลาดอาจจะเป็นไปได้ว่าจะนำแบรนด์ที่มีอยู่แล้วเข้ามาทำตลาดหรือการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเพื่อรุกตลาดเฉพาะ เช่น กรณีล่าสุดแบรนด์ “บิ๊กเฟรช”
ประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย และโคลอมเบีย ที่บริษัทใช้เป็นประเทศที่เปิดตัวแบรนด์ใหม่ บิ๊กเฟรช เข้าสู่ตลาด โดยผลิตที่ไทย 1 ใน 4 โรงงานของอาเจกรุ๊ปทั่วโลก คือ ไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และเวียดนาม เป็นการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ เป็นตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้เพื่อขยายตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ซึ่งคนไทยยังบริโภคน้อย แค่ 38 ลิตรต่อคนต่อปี จากเดิมที่บริษัทฯ เข้าสู่ตลาดช่วงแรกคนไทยดื่มเพียง 10 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น ซึ่งก็ยังน้อยเมื่อเทียบกับคนในประเทศอเมริกา และยุโรปที่ดื่ม 150 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่คนอินโดนีเซียดื่ม 2 ลิตรต่อคนต่อปีเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเป็น 5 ลิตรต่อคนต่อปี แต่ก็มีปริมาณประชากรมากถึง 280 ล้านคน ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่าบิ๊กเฟรชจะช่วยกระตุ้นให้คนไทยดื่มน้ำอัดลมเป็น 40 ลิตรต่อคนต่อปีได้
บิ๊กเฟรช เป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้ 5% มีปริมาณน้ำตาลต่ำ แคลอรีต่ำ มี 2 รสชาติ คือ ส้มแมนดาริน กับมะนาว ขนาด 550 มล. ราคา 15 บาท ถือเป็นทางเลือกใหม่ในไทย จับกลุ่มคนรักสุขภาพ มั่นใจว่าไม่ซ้ำซ้อนกับฐานกลุ่มเดิมของน้ำอัดลมสีของบิ๊กที่มีอยู่แล้ว เพราะต้องการขยายฐานกลุ่มใหม่ๆ มากกว่า จะเริ่มวางจำหน่ายเป็นทางการในช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นวันจันทร์หน้า ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา เน้นการแจกชิม การเป็นพันธมิตรกับธุรกิจอื่น การจัดกิจกรรม การทำโปรโมชัน เป็นต้น ซึ่งการที่แบรนด์บิ๊ก แบรนด์แม่เป็นสปอนเซอร์หลักทางการของรายการ เอเชีย ก็อตทาเลนต์ จะยิ่งช่วยทำให้ตลาดรู้จักแบรนด์นี้ได้เร็วยิ่งขึ้นและกว้างขึ้นในระดับตลาดเอเชีย รวมทั้งแบรนด์บิ๊กในภาพรวมด้วย
นายฆอร์เก้กล่าวให้ความเห็นด้วยว่า ตลาดน้ำอัดลมโดยรวมในไทยปีนี้คาดว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้วที่มีเหตุการณ์ทางการเมืองและปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของบริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตที่ดีขึ้นจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการทำตลาดต่อเนื่อง และมั่นใจว่าปีนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมรวมประมาณ 20% จากขณะนี้ที่มีเฉลี่ย 10-15%