“เจ้าสัวชาเขียว” โวเป้ารายได้ปีนี้คาดแตะ 7,500 ล้านบาท ผุดธุรกิจ OEM บรรจุภัณฑ์เสริมรายกว่า 120 ล้านบาท/ปี พร้อมปัดฝุ่น “ไบเล่” น้ำส้มไม่อัดลม เตรียมรุกตลาดเพื่อนบ้านไป พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการบุกตลาดเพิ่มขึ้น หลังจากที่โรงงานอิชิตัน กรีน แฟคทอรี่ มีการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรใหม่แล้วเสร็จ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 1,000 ล้านขวด และ 200 ล้านกล่องต่อปี ซึ่งขณะนี้ บริษัทใช้กำลังการผลิตเพียง 80% เท่านั้น โดยหากเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นถึง 100% จะสามารถเพิ่มยอดการผลิตได้ถึง 1,200 ล้านขวด/ปี อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทมีการบริหารต้นทุนการผลิต การดำเนินงาน และสต็อกสินค้า มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วย
“นอกจากจะผลิตเครื่องดื่มอิชิตัน กรีนที และเครื่องดื่มแบรนด์ เย็นเย็นแล้ว บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการเพิ่มสายการผลิตเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ได้อีกหลายชนิด โดยในเร็วๆ นี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดแผนกรับจ้างผลิต หรือ OEM เพื่อสร้างรายได้เสริมให้องค์กร ซึ่งบริษัทฯ เป้ารายได้ของธุรกิจรับจ้างผลิตในปีแรกไว้ที่ 120 ล้านบาท จากความได้เปรียบในเรื่องวัตถุดิบเป็นกลยุทธ์หลัก”
ขณะเดียวกัน จากการที่บริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการของน้ำผลไม้แบรนด์ “ไบเล่” ไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ดำเนินการโอนย้ายสินทรัพย์ และปรับปรุงโรงงานและกระบวนการผลิตไปในบางส่วนแล้ว บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มการจำหน่ายไบเล่น้ำผลไม้รสส้มและรสองุ่นไม่อัดลมได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำวิจัยมูลค่าเครื่องดื่มน้ำผลไม้ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดรายได้จากไบเล่ในปีแรกไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ก็จะผลักดันยอดขายในต่างประเทศได้แก่ พม่า, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และจีน อีกไม่น้อยกว่า 280 ล้านบาท
ขณะที่ในส่วนของความร่วมมือในการเข้าไปลงทุนยังประเทศอินโดนีเซีย ระหว่าง บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป กับ บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีบริษัท มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ถือหุ้นร่วม โดยได้จัดตั้งเป็นบริษัทฯ ร่วมทุน คือ บริษัท อิชิตัน อินโดนีเซีย เพื่อตั้งโรงงานการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวในประเทศอินโดนีเซีย ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยบริษัทอิชิตัน อินโดนีเซียตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้ที่ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
“บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ประมาณ 7,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 6,209 ล้านบาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นไม่น้อยกว่า 16-18% จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 1,200 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มทั้งระบบสำหรับปี 2558 จะอยู่ที่ 17,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 15% จากกลุ่มชาผสมสมุนไพรและชาเพื่อสุขภาพ เทรนด์ไม่หวาน หรือหวานน้อย ซึ่งมั่นใจว่าเครื่องดื่มชาเขียวภายใต้แบรนด์อิชิตันจะยังสามารถรักษาฐานส่วนแบ่งการตลาดด้วยสัดส่วนสูงถึง 43.8% ในปีที่แล้วเป็นอันดับที่ 1 ต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน”
