xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดเบียร์ปีแพะหืดจับ “ไฮเนเก้น” ส่งแพก 8 กระตุ้นตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“ภัททภาณี เอกะหิตานนท์” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ “ไฮเนเก้น” บริษัท ที เอ พี เทรดดิ้ง จำกัด
ASTVผู้จัดการรายวัน - ตลาดเบียร์รวมปี 58 คาดนิ่งอยู่กับที่ ลุ้นทะลุ 137,317 ล้านบาท เผยปีที่แล้วมูลค่าเพิ่มเล็กน้อย ในแง่ปริมาณร่วงลง “ไฮเนเก้น” เปิดกลยุทธ์ท่ามกลางฝ่าด่านหินลุย “สปอร์ต-มิวสิก มาร์เกตติ้ง” คาดปีนี้ยอดขายคงโต 4%

นางสาวภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ “ไฮเนเก้น” บริษัท ที เอ พี เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2557 ตลาดเบียร์โดยรวมของไทยในแง่มูลค่าตลาดรวมมีประมาณ 136,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่มีมูลค่า 126,874 ล้านบาท แต่หากมองในแง่ของปริมาณแล้วพบว่ามีประมาณ 2,012 ล้านลิตร ลดลงจากปี 2556 ที่มี 2,046 ล้านลิตร และคาดการณ์กันว่าในปี 2558 มูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 137,317 ล้านบาท และในแง่ปริมาณจะเพิ่มเป็น 2,020 ล้านลิตร

ขณะที่ตลาดเบียร์โดยรวมหดตัวลงประมาณ 1.6% โดยในแง่ของปริมาณนั้นเมื่อเทียบกับปี 2556 โดยพิจารณาจากเบียร์ในแต่ละเซกเมนต์แล้วพบว่า ตลาดเบียร์พรีเมียมกลับหดตัวลงมากกว่า 6.85% มีมูลค่าตลาดรวมที่ 17,685 ล้านบาท ราคาจำหน่ายเฉลี่ย 64 บาทต่อ 1 ขวดใหญ่ โดยมีแบรนด์หลักคือ ไฮเนเก้น, ไทเกอร์, ไทเกอร์ คริสตัล ของค่าย “ไฮเนเก้น”, อาซาฮี, สิงห์, สิงห์ ไลท์ ของค่าย “บุญรอด บริวเวอรี่” และเฟดเดอร์บรอย ของค่าย “ไทยเบฟเวอเรจ” โดย “ไฮเนเก้น” มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 36% เป็น 40% ส่วน “สิงห์” เป็นผู้นำตลาดมีแชร์ 58%

ส่วนตลาดเบียร์เมนสตรีมหดตัวลง 0.2% มีมูลค่าตลาดรวม 116,760 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 54 บาทต่อขวดใหญ่ ผู้นำตลาดคือ “ลีโอ” มีแชร์ 72% รองลงมาคือ “ช้าง” มีแชร์ 28% ขณะที่ตลาดเบียร์อีโคโนมีรวมมีมูลค่าตลาด 2,155 ล้านบาท หดตัวลง 27.7% ซึ่งถือว่ามากที่สุดในตลาด ราคาเฉลี่ย 48 บาทต่อขวดใหญ่ ผู้นำตลาดคือ “อาชา” เกือบ 100%

อย่างไรก็ตาม ปีนี้คาดว่าตลาดเบียร์โดยรวมจะมีมูลค่าประมาณ 137,317 ล้านบาท และมีปริมาณ 2,020 ล้านลิตร คาดว่าตลาดรวมจะทรงตัว หรือไม่ก็เติบโตเล็กน้อย สาเหตุเพราะปีที่แล้วตลาดรวมไม่ค่อยดี เนื่องจากปัญหาการเมืองในช่วงครึ่งปีแรกและกำลังซื้อลดลง รวมทั้งการประกาศเคอร์ฟิวส์ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง

นางสาวภัททภาณีกล่าวว่า ในส่วนของเบียร์ “ไฮเนเก้น” ปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 4% ส่วนปีที่แล้วมีแชร์เพิ่มขึ้น 4% และมียอดขายเติบโต 6% เป็นผลมาจากการสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภค การจัดกิจกรรมต่อเนื่อง การมีช่องทางกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง อีกทั้งไม่ได้ขึ้นราคาเหมือนค่ายอื่น โดยสัดส่วนช่องทางจำหน่ายของไฮเนเก้นอยู่ที่ ออนพรีมิส 60% และออฟพรีมิส 40% ขณะที่ตลาดรวมจะกลับกัน ไปอยู่ที่ออนพรีมิส 40% และออฟพรีมิส 60%

ล่าสุดเปิดตัวโกลบอลแคมเปญ “แชมเปี้ยน เดอะ แมตช์” (Champion the Match) กับการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนลีกส์ที่ “ไฮเนเก้น” เป็นผู้สนับสนุนปีที่ 10 เพื่อหาผู้โชคดี 10 รายไปชมการถ่ายทอดสดนัดชิงชนะเลิศและร่วมปาร์ตี้กับ “ซาบี้ เฮอน์นันเดซ” นักเตะในตำนานของสโมสรฟุตบอล “บาร์เซโลนา” ที่เกาะอิบิซา ประเทศสเปน รวมทั้งการออกแพกเกจใหม่ คือ ขนาด 500 มิลลิลิตร แบบ 4 กระป๋อง พร้อมกระเป๋าผ้า ราคา 228 บาท และแพกเกจเบียร์ขนาด 320 มิลลิลิตร แบบ 8 กระป๋อง ราคา 312 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นลายถ้วยยูฟ่าตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน




กำลังโหลดความคิดเห็น