xs
xsm
sm
md
lg

SMEs ระส่ำยอดขายวูบ NPL เริ่มขยับสูง แนะรัฐฟื้นแรงซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ส.อ.ท.เผยผู้ประกอบการ SMEs เริ่มมีสัญญาณเป็น NPL เพิ่มขึ้น เหตุส่งออก แรงซื้อในประเทศวูบ ลุ้นแก้ไทยพ้นเทียร์ 3 หวังเพิ่มส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ หลังตลาดหลักอื่นซึม สมาคมฯ SMEs ตอกย้ำยอดขายดิ่ง 20-30% แนะหากไม่ฟื้นแรงซื้อออกมาตรการมาคงช่วยแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ชี้ช่องให้กระตุ้นท่องเที่ยว

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) เริ่มประสบภาวะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น หลังจากภาวะการส่งออกยังคงชะลอตัวลง ควบคู่กับแรงซื้อในประเทศที่ยังคงไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อการจำหน่ายสินค้าภาพรวมที่ต้องลดลงและยังเผชิญการแข่งขันที่สูง ดังนั้นจึงเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

“การส่งออกที่ลดลง ม.ค. 58 แรงซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว สิ่งที่เอกชนรอดูคือมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า ม.ค. 58 รัฐเบิกจ่ายงบลงทุนเพียง 5 หมื่นกว่าล้านบาท คิดเพียง 13% จากที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้การลงทุนทั้งรัฐและเอกชนบางส่วนมีการชะลอออกไป โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณรัฐก็ต้องดูสถานการณ์การเบิกจ่ายงบของรัฐก่อน” นายเกรียงไกรกล่าว

สำหรับการส่งออก สิ่งที่เอกชนกำลังติดตามใกล้ชิดก็คือกรณีที่สหรัฐอเมริกาจะมีการประเมินอันดันความน่าเชื่อถือปัญหาการค้ามนุษย์อีกครั้งในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นสหรัฐฯ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือให้ไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 หรือระดับล้มเหลว ซึ่งหากไทยไม่สามารถพ้นบัญชีดังกล่าวออกไปได้ก็จะมีผลกระทบต่อตลาดส่งออกไปสหรัฐอเมริกาที่ขณะนี้เป็นเพียงตลาดเดียวที่จะฟื้นตัวและมีศักยภาพที่จะทำให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น

นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ขณะนี้ SMEs มีรายได้ลดลง 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งนโยบายการช่วยเหลือของภาครัฐที่ประกาศออกมาก็ถือว่าดีระดับหนึ่งแต่ก็ยังเห็นว่าหากกำลังซื้อของประชาชนไม่มีลงทุนขยายอะไรมากเกินไปก็ไม่มีใครซื้อ หรือใช้บริการอยู่ดี จึงต้องการให้กระตุ้นกำลังซื้อดีกว่าเพื่อให้เกิดการขยายความต้องการสินค้า หรือบริการ

“ตอนนี้หลายคนไม่อยากจะรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างเดียว เพราะอาจล่าช้าได้ จึงอยากให้ภาครัฐโปรโมตให้อีก 9 ประเทศในอาเซียนมาเที่ยวไทย เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่แล้วแต่อยากให้อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น การให้วีซ่าต่างๆ บางประเทศยังต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศไทยอยู่ ซึ่งหากกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้จะทำให้ภาค SMEs ได้รับอานิสงส์” นางเพ็ญทิพย์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น