ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ.ติดลบติดต่อกัน 2 เดือน เหตุปัจจัยลบรุมกระหน่ำ ทั้งเศรษฐกิจไม่โต น้ำมันขึ้นกระฉูด ส่งออกวูบ สินค้าเกษตรราคาตก บาทแข็ง ค่าครองชีพพุ่ง คาดน้ำมันจะเป็นแรงกดดัน ทำให้คนชะลอการใช้จ่าย แนะรัฐอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.พ. 2558 ปรับตัวลดลงทุกรายการ และติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 79.1 ลดจาก 80.4 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 59.8 ลดจาก 60.7 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 86.4 ลดจาก 87.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 68.4 ลดจาก 69.7 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 73.0 ลดจาก 74.1 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 95.8 ลดจาก 87.4
ปัจจัยลบที่ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง มาจากการปรับเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เหลือ 3.5-4.3% ราคาน้ำมันเบนซินในเดือน ก.พ.ปรับเพิ่มขึ้น 2.80 บาทต่อลิตร และดีเซล 2.30 บาทต่อลิตร การส่งออกเดือน ม.ค.ลดลง 3.46% ราคาพืชผลเกษตรยังตกต่ำ ทั้งข้าวและยางพารา เงินบาทแข็งค่าขึ้น และผู้บริโภคยังกังวลในเรื่องค่าครองชีพสูงและความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนปัจจัยบวกก็มีบ้าง แต่ไม่มาก เช่น SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 ขยายตัว 2.3%
“ดัชนีเชื่อมั่นที่กลับมาลดลงเพราะคนยังมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ และยิ่งน้ำมันกลับมาแพงขึ้นต่อเนื่องก็ยิ่งเป็นแรงกดดันทำให้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย โดยคาดว่ากำลังซื้อจะยังคงลดลง ซึ่งรัฐจะต้องเร่งแก้ไขโดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ” นายธนวรรธน์กล่าว