ประมูลข้าวครั้งที่ 2/2558 ไม่คึกคัก มีเอกชนยื่นตรวจคุณสมบัติ 45 ราย กรมการค้าต่างประเทศเตรียมตรวจสอบเข้มภายในวันนี้ ก่อนประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ และให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าววันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันนี้ (5 มี.ค.) กรมการค้าต่างประเทศได้เปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1 ล้านตัน ยื่นซองคุณสมบัติตั้งแต่เวลา 08.30-11.30 น. โดยเมื่อครบกำหนดเวลาปรากฏว่ามีเอกชนทั้งโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการค้าขายในประเทศ มายื่นซองคุณสมบัติทั้งหมด 45 ราย จากผู้ที่เข้ามารับบัตรคิวทั้งหมด 47 ราย
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นซองทั้งหมด และหากไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด หรือกระทำการเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ให้กับบริษัทที่กระทำผิด ก็จะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการยื่นประมูลข้าวในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 6 มี.ค. และจากนั้นเวลา 09.00-10.30 น. ให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าว
สำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองคุณสมบัตินั้น กรมการค้าต่างประเทศจะทำการตรวจสอบร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมการค้าภายใน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภาคเอกชนที่มีคุณสมบัติถูกต้อง และไม่ขัดกับเงื่อนไขที่กำหนดสามารถยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวได้ตั้งแต่เวลา 09.00-10.30 น. และจากนั้นจะทำการเปิดซองเสนอราคา โดยผู้ที่ยื่นเสนอราคาผ่านเกณฑ์ราคาขั้นต่ำที่กำหนดก็จะอนุมัติขายให้
โดยข้าวที่เปิดประมูลในครั้งนี้มีปริมาณรวมกว่า 1 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5%, 10%, 15% และ 25% ข้าวเหนียว และปลายข้าว ในคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นการระบายแบบรายคลังตามสภาพข้าวที่เก็บรักษา
พร้อมกันนี้ ได้กำหนดคุณสมบัติผู้ยื่นประมูลข้าวให้มีความรัดกุมและเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่เคยมีปัญหาในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าข้าวเข้ามาประมูลได้ เช่น กำหนดคุณสมบัติต้องเป็นผู้ค้าข้าวเท่านั้น ไม่เคยมีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อโครงการแทรกแซงสินค้าเกษตร ต้องไม่มีประวัติการชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. หรือมีความเกี่ยวพันกับบริษัทที่กระทำความผิด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 2/2558 นี้มีผู้แสดงความสนใจเข้าร่วมประมูลน้อยกว่าครั้งที่ 1/2558 ที่เปิดประมูลไปเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2558 ปริมาณ 9.9 แสนตัน โดยครั้งแรกมีผู้สนใจเข้ายื่นประมูลรวม 100 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติ 96 ราย และในครั้งนี้มีผู้เข้ายื่นซองคุณสมบัติรวม 45 ราย และยังไม่ทราบผลว่าจะมีผู้ผ่านคุณสมบัติก่อนที่จะยื่นซองเสนอราคากี่ราย