“ฉัตรชัย”มั่นใจประมูลข้าวรอบ 2 อีก 1 ล้านตัน มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมากแน่ ยันได้กำหนดเงื่อนไขใหม่ คุมเข้มนอมินีแอบเข้ามาประมูล “ดวงพร”แจงวิธีการประมูลข้าว ปรับปรุงขั้นตอนประมูลใหม่ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยัน 2 ข้าราชการถูกชี้มูลเอี่ยวจีทูจีเก๊ ยังไม่ลาออก ต้องรอผลประชุมอกพ.กระทรวงฯ ก่อน เอกชนคาดรอบนี้ คนประมูลไม่มาก
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเปิดประมูลข้าวแบบยกคลังครั้งที่ 2/2558 ที่จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 5-6มี.ค.นี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมเสนอราคา เพื่อป้องกันปัญหาตัวแทนอำพราง (นอมินี) เข้ามาประมูลข้าว โดยเฉพาะเป็นนอมินีให้กับบริษัทที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดการซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) มาร่วมประมูลอีก โดยหากการตรวจสอบพบว่าบริษัทใดเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงไปยังบริษัทที่ถูกชี้มูล ก็จะตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมประมูลทันที
“คาดว่า การประมูลข้าวครั้งที่ 2 จะมีผู้สนใจเสนอราคาจำนวนมากเหมือนกับครั้งแรก โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันระบายออกจากสต๊อกที่มีอยู่ 17-18 ล้านตันให้หมดภายใน 2 ปี ตามแผนที่กำหนด”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวในการชี้แจงรายละเอียดการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลครั้งที่ 2/2558 ให้แก่ภาคเอกชนที่สนใจ ว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งนี้ เป็นการเปิดประมูลแบบยกคลัง ในปริมาณรวม 1,008,837 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว 5% ประมาณ 762,700 ตัน คิดเป็น 75% ของข้าวที่นำมาเปิดประมูลทั้งหมด ซึ่งเป็นชนิดข้าวที่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีความต้องการซื้อสูง ส่วนที่เหลือเป็นข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% ข้าวเหนียวขาว 10% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ จาก 124 คลัง ใน 33 จังหวัด
โดยการเปิดประมูลครั้งนี้ กรมฯ ได้มีการปรับปรุงขั้นตอนการประมูลให้มีความสะดวกและเรียบร้อยมากขึ้น โดยได้กำหนดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 5 มี.ค.2558 เพื่อตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ โดยเพิ่มให้กรมการค้าภายในและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ เพราะการประมูลครั้งที่ผ่านมา ตรวจพบบางบริษัทเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการระบายข้าว และหลังจากนั้นจะติดประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในวันที่ 6 มี.ค.2558 พร้อมเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา เวลา 09.00 - 10.30 น. และจะเปิดซองเสนอซื้อตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงยึดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เดิม โดยเฉพาะการประกาศมูลค่าขั้นต่ำก่อน เพื่อให้ผู้เสนอซื้อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา และใช้เป็นข้อมูลในการแข่งขันการประมูล ซึ่งผู้เสนอซื้อมูลค่าสูงสุดในแต่ละคลังที่ผ่านเกณฑ์แล้ว กรมฯ จะรวบรวมเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)
พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการประมูลก่อนยืนยันการซื้อขายต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับว่ามีความโปร่งใส และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลจำนวนมากเช่นที่ผ่านมา
นางดวงพรกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่านายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าข้าว ได้ยื่นใบลาออกจากราชการว่า ไม่เป็นความจริง ทั้ง 2 คนยังมาทำงานตามปกติ เพราะคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.)กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ประชุมเพื่อพิจารณาในกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงกรณีการขายข้าวจีทูจี โดยคาดว่าจะมีการประชุมในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมี.ค. ซึ่งสามารถพิจารณาโทษได้เพียงปลดออกกับไล่ออก และข้าราชการทั้ง 2 คนมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
ส่วนการเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกรณีโครงการจำนำข้าวนั้น กรมฯ อยู่ระหว่างการหารือกับ ป.ป.ช. และกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางการประเมินค่าความเสียหาย เพื่อตรวจสอบความเสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากมีบุคคลหลายระดับที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 2 ของรัฐบาล จะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนลดลง เนื่องจากขณะนี้ความต้องการตลาดชะลอตัว จากปริมาณผลผลิตที่มีมาก และการแข่งขันด้านราคา โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยแพงกว่าข้าวเวียดนามประมาณตันละ 50 เหรียญสหรัฐ ทำให้แข่งขันได้ยากขึ้น และคาดว่าการประมูลครั้งนี้ รัฐบาลน่าจะขายได้ประมาณ 4 แสนตัน จากทั้งหมด 1 ล้านตัน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเปิดประมูลข้าวแบบยกคลังครั้งที่ 2/2558 ที่จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 5-6มี.ค.นี้ กรมการค้าต่างประเทศได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมเสนอราคา เพื่อป้องกันปัญหาตัวแทนอำพราง (นอมินี) เข้ามาประมูลข้าว โดยเฉพาะเป็นนอมินีให้กับบริษัทที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดการซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) มาร่วมประมูลอีก โดยหากการตรวจสอบพบว่าบริษัทใดเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงไปยังบริษัทที่ถูกชี้มูล ก็จะตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าร่วมประมูลทันที
“คาดว่า การประมูลข้าวครั้งที่ 2 จะมีผู้สนใจเสนอราคาจำนวนมากเหมือนกับครั้งแรก โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันระบายออกจากสต๊อกที่มีอยู่ 17-18 ล้านตันให้หมดภายใน 2 ปี ตามแผนที่กำหนด”พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวในการชี้แจงรายละเอียดการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลครั้งที่ 2/2558 ให้แก่ภาคเอกชนที่สนใจ ว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งนี้ เป็นการเปิดประมูลแบบยกคลัง ในปริมาณรวม 1,008,837 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว 5% ประมาณ 762,700 ตัน คิดเป็น 75% ของข้าวที่นำมาเปิดประมูลทั้งหมด ซึ่งเป็นชนิดข้าวที่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีความต้องการซื้อสูง ส่วนที่เหลือเป็นข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% ข้าวเหนียวขาว 10% และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ จาก 124 คลัง ใน 33 จังหวัด
โดยการเปิดประมูลครั้งนี้ กรมฯ ได้มีการปรับปรุงขั้นตอนการประมูลให้มีความสะดวกและเรียบร้อยมากขึ้น โดยได้กำหนดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติในวันที่ 5 มี.ค.2558 เพื่อตรวจสอบเอกสารคุณสมบัติให้แล้วเสร็จ โดยเพิ่มให้กรมการค้าภายในและกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ เพราะการประมูลครั้งที่ผ่านมา ตรวจพบบางบริษัทเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตการระบายข้าว และหลังจากนั้นจะติดประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาซื้อที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในวันที่ 6 มี.ค.2558 พร้อมเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา เวลา 09.00 - 10.30 น. และจะเปิดซองเสนอซื้อตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงยึดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เดิม โดยเฉพาะการประกาศมูลค่าขั้นต่ำก่อน เพื่อให้ผู้เสนอซื้อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา และใช้เป็นข้อมูลในการแข่งขันการประมูล ซึ่งผู้เสนอซื้อมูลค่าสูงสุดในแต่ละคลังที่ผ่านเกณฑ์แล้ว กรมฯ จะรวบรวมเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)
พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการประมูลก่อนยืนยันการซื้อขายต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับว่ามีความโปร่งใส และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลจำนวนมากเช่นที่ผ่านมา
นางดวงพรกล่าวถึงกรณีมีข่าวว่านายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าข้าว ได้ยื่นใบลาออกจากราชการว่า ไม่เป็นความจริง ทั้ง 2 คนยังมาทำงานตามปกติ เพราะคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.)กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ประชุมเพื่อพิจารณาในกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงกรณีการขายข้าวจีทูจี โดยคาดว่าจะมีการประชุมในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมี.ค. ซึ่งสามารถพิจารณาโทษได้เพียงปลดออกกับไล่ออก และข้าราชการทั้ง 2 คนมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
ส่วนการเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกรณีโครงการจำนำข้าวนั้น กรมฯ อยู่ระหว่างการหารือกับ ป.ป.ช. และกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางการประเมินค่าความเสียหาย เพื่อตรวจสอบความเสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากมีบุคคลหลายระดับที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมาย
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเปิดประมูลข้าวครั้งที่ 2 ของรัฐบาล จะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนลดลง เนื่องจากขณะนี้ความต้องการตลาดชะลอตัว จากปริมาณผลผลิตที่มีมาก และการแข่งขันด้านราคา โดยขณะนี้ราคาข้าวไทยแพงกว่าข้าวเวียดนามประมาณตันละ 50 เหรียญสหรัฐ ทำให้แข่งขันได้ยากขึ้น และคาดว่าการประมูลครั้งนี้ รัฐบาลน่าจะขายได้ประมาณ 4 แสนตัน จากทั้งหมด 1 ล้านตัน