เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคชาวพม่า เผย 8 เทรนด์ใหม่ชาวพม่า 1. เปิดรับ 2. กล้าลอง 3. ใส่ใจตัวเอง 4. ทันสมัย 5. ติดโซเชียล 6. ชอบชีวิตสะดวกสบาย 7. นิยมเดินห้าง และ 8. ชอบสังสรรค์ ชี้พม่าพร้อมเติบโตพัฒนาแบบก้าวกระโดด เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่นักการตลาด เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
น.ส.สรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์วิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคจากสหรัฐอเมริกา ในเครืออินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “พม่า ประเทศที่กำลังเป็นที่จับตามองจากนานาประเทศทั่วโลก โดดเด่นทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ และโอกาสในการลงทุน รวมถึงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพม่าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนที่ต้องการเข้าไปทำการตลาดในพม่าจึงมีความจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการและแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพื่อนำไปช่วยในการวิเคราะห์ตลาดได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น เอ็นไวโรเซล ไทยแลนด์ จึงได้ทำการสำรวจตลาดพม่าอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับแนวโน้มค่านิยมของชาวพม่า โดยสรุปได้ 8 ประการ ดังนี้
1. เปิดรับ (Open for new thing) หลังจากที่พม่าได้เปิดประเทศไปไม่นาน ชาวพม่าก็มีโอกาสได้รับสิ่งใหม่ๆ ทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม สินค้าแบรนด์ใหม่ รวมถึงแฟชั่น ทยอยเข้ามาในประเทศขึ้นเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าชาวพม่าเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันที่ชาวพม่ายอมจ่ายเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้า น้ำยาล้างภาชนะ น้ำยาทำความสะอาดพื้น เป็นต้น แสดงให้เห็นว่านอกจากชาวพม่าจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แล้วยังพร้อมทดลองบริโภคผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยใช้มาก่อน
2. กล้าลอง (Dare to take challenge) ชาวพม่าเปลี่ยนความสนใจจากผลิตภัณฑ์แบรนด์เดิมๆ ไปยังสินค้าอุปโภคและบริโภคแบรนด์ใหม่ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น โดยอาศัยการตัดสินใจจากสื่อ โฆษณาต่างๆ สูงถึง 48% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้ายบิลบอร์ด หรือป้ายข้างทาง (คัตเอาต์) สามารถสร้างการรับรู้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ชาวพม่ายังมีความพร้อมที่จะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ถึง 25% จึงทำให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ที่เริ่มเข้าไปขยายธุรกิจได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคพม่าเป็นอย่างดี จากแต่ก่อนที่ชาวพม่าจะต้องค้นคว้า หาข้อมูล หรือปรึกษาคนรอบข้างก่อนการตัดสินใจบริโภค แต่ในปัจจุบันนี้ชาวพม่าตัดสินใจทดลองสินค้าใหม่ๆ ด้วยตนเองมากขึ้น
3. ใส่ใจตัวเอง (More beauty conscious) นอกจากเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ และกล้าลองมากขึ้นแล้ว ชาวพม่าได้หันมาใส่ใจและดูแลตัวเองมากขึ้นทั้งเพศหญิงและชาย จากเมื่อก่อนที่ไม่สนใจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ นอกจากทานาคา แต่ในปัจจุบันชาวพม่ายุคใหม่เริ่มให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์บำรุงผิว บำรุงความงามอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ครีมกันแดด ครีมนวดผม ครีมบำรุงต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นถึง 20%
4. ทันสมัย (Found to be more modern) จะเห็นได้ว่าชาวพม่ามีความทันสมัยมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือ จากปี 2556 ที่มีอัตราการใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 72% ในปี 2558 เพิ่มขึ้นสูงถึง 97% และเป็นการก้าวกระโดดจากยุคโทรศัพท์ในสมัยก่อนมาสู่ยุคของสมาร์ทโฟน และให้ความสนใจกับการติดต่อบนโลกออนไลน์อย่างมาก และนอกจากจะใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแล้ว ในปัจจุบันนี้แท็บเล็ตได้เข้ามามีบทบาทในการติดต่อสื่อสารกันของชาวพม่าเช่นกัน รวมถึงมีการเลือกใช้สินค้าสมัยใหม่ ซื้อสินค้าประเภทจอโทรทัศน์ ทั้ง LCD และ LED มากยิ่งขึ้น
5. ติดโซเชียลออนไลน์ (Start addicted to online) จากการก้าวกระโดดสู่ยุคสมาร์ทโฟนและการเติบโตในระบบโทรคมนาคม ทำให้การสื่อสารทางโทรศัพท์ และสื่อดิจิตอลทั้งหลายเข้ามามีบทบาทต่อสังคมประเทศพม่าเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่การใช้ Line หรือ Whatsapp เท่านั้น แต่ทว่าแอปพลิเคชันอย่าง Viber กลับเป็นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสังคมโซเชียลของชาวพม่าในปัจจุบันนี้อีกด้วย
6. ชีวิตสะดวกสบาย (Readily seek convenient) ชาวพม่าเริ่มมีการใช้อุปกรณ์เพื่อสร้างความสะดวกสบายในชีวิตมากยิ่งขึ้น เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ หรือวิธีการใช้ชีวิตการกินอยู่เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น มีการใช้ซุปก้อน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงการคมนาคมที่สะดวกสบายกว่าแต่ก่อน ทำให้ชาวพม่ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
7. นิยมเดินห้าง (Comes the modern trade area) จากในสมัยก่อนชาวพม่าใช้ชีวิตอยู่ติดบ้าน จับจ่ายซื้อของตามตลาดสด แต่ในปัจจุบันพบว่าชาวพม่ามีการจับจ่ายใช้สอยตามห้างสรรพสินค้ามากยิ่งขึ้น สูงถึง 44% เนื่องจากมีความสะดวกสบายกว่า
8. มีกิจกรรมนอกบ้านหลากหลาย (Broader life activities) วิถีชีวิตของชาวพม่า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากการใช้ชีวิตอยู่ติดบ้าน หรือการไปวัดในเสาร์ อาทิตย์ ในปัจจุบันพบว่าชาวพม่ามีการทำกิจกรรมนอกบ้านมากยิ่งขึ้น มีกลุ่มเพื่อน มีสังคม นัดสังสรรค์กันในยามว่าง ชอบพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ทั้งการชวนกันไปดื่มชากาแฟ การแฮงก์เอาต์กับเพื่อนฝูง รวมถึงการไปเที่ยวชมงานอีเวนต์ต่างๆ สูงถึง 45% เช่น คอนเสิร์ต เทรดแฟร์ การประกวดดารา นักร้องกำลังเป็นที่ได้รับ
“จะเห็นได้ว่าชาวพม่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด เปิดรับสิ่งใหม่อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่ไร้พรมแดน การบริโภคอุปโภคสินค้าใหม่ๆ หรือได้รับความสะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น แต่กลับพบว่าดัชนีความสุขของชาวพม่ากลับลดลง ปัจจัยหนึ่งคือการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของประเทศพม่านั่นเอง จึงทำให้ชาวพม่าต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น” น.ส.สรินพร จิวานันต์ ทิ้งท้าย