กรมทรัพย์สินทางปัญญาลุยผลักดันโครงการ 1 จังหวัด 1 จีไอ ตั้งเป้า 3 ปีมีครบทุกจังหวัด จากปัจจุบันมีแล้ว 51 จังหวัด เตรียมลุยปีนี้เพิ่มอีก 9 จังหวัด พร้อมจัดงานจีไอมาร์เก็ต นำสินค้าจีไอส่งตรงขึ้นห้าง เพิ่มช่องทางขายให้ผู้ผลิต
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะเดินหน้าโครงการ 1 จังหวัด 1 สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีทุกจังหวัดจะต้องมีสินค้าจีไอ โดยล่าสุดมีจังหวัดที่ขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอแล้ว 51 จังหวัด ยังคงเหลืออีก 26 จังหวัดที่ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ ซึ่งปีนี้กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้อย่างน้อยอีก 9 จังหวัดมีการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ
โดยสินค้าจีไอทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี และสับปะรดสวนผึ้งราชบุรี จ.ราชบุรี แห้วสุพรรณ จ.สุพรรณบุรี นิลเมืองกาญจน์ จ.กาญจนบุรี กะปิเกาะช้าง งอบน้ำเชี่ยว สับปะรดตราดสีทอง จ.ตราด ผ้าหม้อห้อมแพร่ ผ้าจกเมืองลอง ข้าวคำหอม จ.แพร่ ข้าวไร่ลืมผัว กาแฟดอยมูเซอ จ.ตาก กล้วยตากสังคม สับปะรดศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย จำปาดะ จ.สตูล หอยชักตีนกระบี่ กะปิแหลมสัก กะปิเกาะลันตา จ.กระบี่
“กรมฯ จะเข้าไปช่วยเหลือให้ผู้ผลิตในจังหวัดมีการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ โดยเข้าไปช่วยตั้งแต่การยื่นคำขอ การผลิต การควบคุมคุณภาพสินค้า การพัฒนาสินค้า เพื่อต่อยอดให้สินค้ามีการพัฒนามากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล เพราะสินค้าจีไอช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้จริง ราคาเพิ่มขึ้นได้เป็น 100% หรือหลาย 100% จากการที่สินค้ามีจำกัด และเป็นสินค้าดีเด่นของแต่ละจังหวัด” นางมาลีกล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีสินค้าจีไอที่ยื่นคำขอแล้ว 115 คำขอ เป็นสินค้าจีไอไทย 101 คำขอ และจีไอต่างประเทศ 14 คำขอ และกรมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนแล้ว 67 คำขอ โดยเป็นสินค้าจีไอไทย 56 คำขอ และจีไอต่างประเทศ 11 คำขอ ขณะที่สินค้าจีไอไทยที่ได้ยื่นจดทะเบียนในต่างประเทศมี 5 สินค้า โดยได้ยื่นจดในสหภาพยุโรป (อียู) 4 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ได้รับการจดทะเบียนแล้ว กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง กำลังประกาศโฆษณาเพื่อรอจดทะเบียน และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอ และอีก 1 สินค้า คือ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ยื่นจดที่เวียดนาม ซึ่งได้รับการจดทะเบียนแล้ว
นางมาลีกล่าวว่า กรมฯ ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดสินค้าจีไอของไทย โดยจะจัดงานจีไอ มาร์เก็ต 2558 ระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-1 เม.ย. 2558 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าจีไอให้เข้าถึงผู้บริโภคผ่านห้างสรรพสินค้า โดยมีสินค้าจีไอมาเข้าร่วมงานจำนวน 60 ราย ซึ่งผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงสินค้าจีไอที่เป็นของแท้ ของดี ของหายาก จากแหล่งผลิตส่งตรงถึงผู้บริโภค และจะทำให้สินค้าจีไอเป็นที่รู้จักและต้องการมากขึ้น
สำหรับสินค้าจีไอที่เด่นๆ ในงาน เช่น หมูย่างเมืองตรัง มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า มะยงชิดนครนายก มะปรางหวานนครนายก กล้วยหินบันนังสตา ปลาทูแม่กลอง ปลาแรดลุ่มแม่น้ำสะแกกรังอุทัยธานี ข้าวไร่ลืมผัวเพชรบูรณ์ ปลาสลิดบางบ่อ มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า ขนมหม้อแกงเมืองเพชร น้ำตาลโตนดเมืองเพชร ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง น้ำหมากเม่าสกลนคร ส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท ส้มโอนครชัยศรี ศิลาดลเชียงใหม่ ผ้าเก็บบ้านเมืองหลวง กลองเอกราช ผ้าหมักโคลนบ้านหนองสูง เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง ชามไก่ลำปาง ผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร เป็นต้น
“ปีที่แล้วกรมฯ ได้จัดงานโอทอป พลัส จีไอ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยตลอดการจัดงาน 7 วัน จำนวน 100 คูหา สามารถสร้างยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการได้ถึง 7.8 ล้านบาท โดยสินค้าที่ขายดี 3 อันดับแรก ได้แก่ หมูย่างเมืองตรัง ผ้าไหมยกดอกลำพูน และผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ซึ่งการจัดงานปีนี้คาดว่าจะมียอดจำหน่ายไม่แพ้กัน” นางมาลีกล่าว