ร.ฟ.ท.จ่อปิดดีลสัญญา 3 งานระบบและเดินรถสายสีแดง แย้มกลุ่มมิตซูบิชิยอมลดราคาเหลือไม่ถึง 3.4 หมื่นล้านแม้เกินกรอบวงเงินแต่รับได้ เหตุราคาเก่าคิดไว้นานแล้ว เตรียมสรุปเสนอ ครม.ขอเพิ่มกรอบ “ปลัดคมนาคม” คาดสรุปใน เม.ย.เซ็นสัญญา เร่งเปิดเดินรถตลอดสายในปี 61 พร้อมเร่งทำทางเชื่อมสีแดงกับสีม่วง ที่สถานีบางซ่อนอำนวยความสะดวก
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังความคืบหน้าโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่สถานีบางซ่อนซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของ 2 โครงการ วานนี้ (25 ก.พ.) ว่า เนื่องจากการประกวดราคาสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 3 (งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) มูลค่า 27,926 ล้านบาท ยังไม่สามารถสรุปผลการเจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) ซึ่งเสนอราคาที่ 49,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสรุปผลในเดือนเมษายนนี้ หากวงเงินสุดท้ายเกินกรอบที่ได้รับอนุมัติ ร.ฟ.ท.จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะลงนามในสัญญากันได้ในเดือนพฤษภาคม ดำเนินการก่อสร้าง 4 ปี จะทำให้การเดินรถเชื่อมของสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิตเชื่อมต่อกันสมบูรณ์แบบ พร้อมกันนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมสรุปโครงการสายสีแดงส่วนต่อขยายจากรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งผ่านการพิจารณาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว เสนอ ครม.ขออนุมัติต่อไปด้วย
โดยก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท.ได้นำรถดีเซลรางมาเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้ฟรี ช่วง ตลิ่งชัน-บางบำหรุ เริ่มเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 เพื่อเป็นการรักษารางในระหว่างที่รอการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าแล้วเสร็จและเปิดเดินรถได้ในปี 2561 แต่เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารน้อยมากเฉลี่ย 10-12 คน ไม่คุ้มค่า จึงหยุดบริการไปหลายเดือนแล้ว แต่ยังคงวิ่งรถเปล่าเพื่อเป็นการรักษาทางต่อไป แต่หากสายสีม่วงเปิดเดินรถในปี 2559 คาดว่าจะทำให้การเชื่อมต่อที่สถานีบางซ่อนมีความสะดวกมากขึ้น อาจจะพิจารณาเปิดเดินรถดีเซลขึ้นอีกครั้ง
รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.แจ้งว่า การเจรจาราคากับกลุ่ม MHSC สรุปราคาล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประเมินราคาที่ ร.ฟ.ท.รับได้ว่าไม่ควรเกิน 3.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากวงเงินเดิมที่ 2.79 หมื่นล้านบาทกำหนดมานานแล้ว โดยจะมีการเสนอ ครม.ขอเพิ่มกรอบวงเงินต่อไป
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า ได้ข้อสรุปเรื่องการก่อสร้างสะพานกลับรถ (U-Turn) 2 ตัว คือ บริเวณหมู่บ้านภาณุรังสี และไทรน้อย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท.ดำเนินการก่อสร้างหลังจากโครงการสายสีแดงกระทบต่อการเดินทางของประชาชน โดยให้ ร.ฟ.ท.นำเรื่องเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) เพื่อของบประมาณในการออกแบบประมาณ 3 ล้านบาท ค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 3 ปี โดยให้ประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อออกแบบให้สอดคล้องกับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
ส่วนการเชื่อมต่อที่สถานีบางซ่อนของสายสีแดงกับสายสีม่วงนั้น ได้สรุปให้ รฟม.เป็นผู้ลงทุนออกแบบและก่อสร้างทางเชื่อมต่อบนพื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตรซึ่งเป็นของ ร.ฟ.ท. โดยให้ใช้วิธีเช่าใช้พื้นที่จาก ร.ฟ.ท.ไปดำเนินการ พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ไปด้วย โดยค่าก่อสร้างทางเชื่อมต่อประมาณ 24 ล้านบาท ซึ่ง รฟม.ได้ออกแบบเบื้องต้นไว้แล้ว คาดว่าจะก่อสร้างประมาณ 1 ปีกว่า จะเสร็จพร้อมกับการเปิดเดินรถสายสีม่วงจะทำให้ประชาชนเดินเชื่อมต่อกันได้สะดวก รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและคนชราด้วย
“ทาง ร.ฟ.ท.ต้องรายงานบอร์ดให้รับทราบ เพื่อให้ รฟม.เข้ามาดำเนินการในพื้นที่ของ ร.ฟ.ท.ในลักษณะการเช่าใช้พื้นที่ ซึ่งเหตุผลที่ให้ รฟม.เป็นผู้ดำเนินการเนื่องจากสายสีม่วงของ รฟม.ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างจะสะดวกมากกว่าให้ ร.ฟ.ท.ทำเพราะงานก่อสร้างสายสีแดงเสร็จแล้ว อีกทั้งเรื่องการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ รฟม.จะมีความคล่องตัวมากกว่า” นางสร้อยทิพย์กล่าว