xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียวคนต่างด้าวลงทุนในไทยเดือน ก.พ. 38 ราย นำเงินเข้ามาลงทุน 811 ล้าน จ้างแรงงานไทย 413 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวไฟเขียวคนต่างด้าวลงทุนในไทยเดือนก.พ. 38 ราย เพิ่มขึ้น 73% นำเงินเข้ามาลงทุน 811 ล้านบาท จ้างแรงงานคนไทย 413 คน

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยเดือน ก.พ. 2558 จำนวน 38 ราย เพิ่มขึ้น 16 ราย หรือเพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2557 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคนต่างด้าวที่ยื่นขออนุญาตครั้งแรกจำนวน 20 ราย โดยการอนุญาตทำให้คนต่างด้าวต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจจำนวน 811 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทยจำนวน 413 คน

ทั้งนี้ ในเดือน ก.พ. 2558 เงินที่คนต่างด้าวนำเข้ามาลงทุนลดลง 1,034 ล้านบาท หรือลดลง 56% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2557 เพราะในช่วงนั้นมีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินและรับค้ำประกันหนี้ให้แก่บริษัทในเครือซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง

สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในเดือน ก.พ. 2558 ได้แก่

1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่มและบริษัทคู่ค้า จำนวน 21 ราย (คิดเป็นร้อยละ 55 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 530 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้กู้ยืมเงินให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน และบริการทางบัญชีเป็นต้น เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และจีน

2. ธุรกิจสำนักงานผู้แทน จำนวน 7 ราย (คิดเป็นร้อยละ 19 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 21 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิต การตลาด การลงทุน ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ให้สำนักงานใหญ่ทราบ เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง

3. ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 5 ราย (คิดเป็นร้อยละ 13 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 26 ล้านบาท เช่น การค้าปลีกแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึดชิ้นงานให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ การค้าปลีกเครื่องจักรอัตโนมัติที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เป็นต้น เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี สิงคโปร์ และฟินแลนด์

4. ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 3 ราย (คิดเป็นร้อยละ 8 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 113 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งอุปกรณ์ยึด (Fastener) และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ การค้าส่งเหล็กและวัตถุดิบในการผลิตแม่พิมพ์ให้แก่ผู้รับจ้างผลิตสินค้าของบริษัท เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น

5. ธุรกิจนายหน้าตัวแทน จำนวน 2 ราย (คิดเป็นร้อยละ 5 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 121 ล้านบาท ได้แก่ การทำกิจการนายหน้าเพื่อจัดหาตลาดสำหรับการจำหน่ายสินค้า และการทำกิจการตัวแทนเพื่อติดต่อประสานงานกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ เป็นคนต่างด้าวจากประเทศเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น

ในช่วง 2 เดือนปี 2558 (ม.ค.-ก.พ.) คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้วจำนวน 75 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,478 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่าจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 15 ราย หรือเพิ่มขึ้น 25% และเงินลงทุนลดลง 108 ล้านบาท หรือลดลง 4%


กำลังโหลดความคิดเห็น